KS Daily View 19.01.2024 >>> คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,390 จุด แม้มี Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดแรงซื้อไม่มากเนื่องจากนักลงทุนรองบ Q4 หุ้นแนะนำ PR9
สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้
- ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA +0.54%, S&P 500 +0.88%, NASDAQ +1.35% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ IT (+2.03%), Communication Services (+1.38%), Industrials (+1.34%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Utilities (-1.03%), Real Estate (-0.61%), Energy (-0.21%) เป็นต้น
- ในประเทศ: SET Index -2.72 จุด หรือ -0.20% ปิดที่ 1,377.93 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ GPSC (+4.89%), RBF (+3.88%), MEGA (+3.66%), TU (+3.33%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ KCE (-4.55%), HMPRO (-4.46%), IVL (-4.02%), CK (-3.23%) เป็นต้น
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,390 จุด คาดตลาดยืนได้ ตาม sentiment เชิงบวก จากเมื่อคืนที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นยกแผง โดยดัชนี Nasdaq 100 ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล อย่างไรก็ตาม SET คงไม่ rebound มาก เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนประเด็นสำคัญ เช่น Digital Wallet อีกทั้งนักลงทุนรอการประกาศงบไตรมาส 4/66 ซึ่งจะทยอยประกาศออกมาต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป โดยเมื่อวานนี้ BBL รายงานกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 8.86 พันลบ. (-22% QoQ และ +17% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 8% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 18% จาก Operating expense ที่สูงกว่าคาด
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีพลิกพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.1% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสำหรับรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 187,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 208,000 ราย
- BBL รายงานกำไรไตรมาส 4/2566 ที่ 8.86 พันลบ. (-22% QoQ และ +17% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 8% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 18% จาก Opex ที่สูงกว่าคาด อย่างไรก็ตามรายการหลักปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/2566 จาก NIM ดีขึ้น QoQ และ NPL ratio ที่ลดลง BBL คง coverage ratio ในระดับที่รอบคอบที่ 315% ในไตรมาส 4/2566 ทั้งนี้เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2567 จากสัดส่วนต้นทุน/รายได้ที่ลดลง และ NIM ที่สูงขึ้น
- ผู้สื่อข่าวฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า “มั่นคงเคหะการ”หรือ MK เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น วันที่ 14 ก.พ.นี้ ถกอนุมัติแก้ไขข้อกำหนดสิทธิในส่วนของข้อกำหนดด้านการเงิน โดยมั่นคงเคหะการ (MK) ได้ออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 6 รุ่น มูลค่าเงินต้น 3,869.30 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงตั้งแต่ปี 2567-2569 ในจำนวนนี้มีรุ่น “MK263A”จะครบไถ่ถอนในวันที่ 28 มีนาคม 2567 นี้ วงเงินเงินต้น 636.40 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าการขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิทางการเงิน อาจมาจากการที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องก่อหนี้เพิ่ม แต่ยังไม่มีนัยยะว่าจะเป็นการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,390 จุด ในสัปดาห์นี้ โดยปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามคือ ความคืบหน้าของ พรบ.กู้เงิน 5 แสนลบ. เพื่อทำดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งล่าสุดฐานเศรษฐกิจรายงานข่าวว่ารัฐบาลอาจยุติการออก พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว และหันไปใช้ พรบ. งบประมาณปี 2568 แทนพร้อมลดวงเงินเหลือ 3 แสนล้านบาท จากหนังสือตอบกลับของกฤษฎีการะบุเงื่อนไขข้อจำกัดทางกฎหมาย รวมถึงการประกาศผลประกอบการ 4Q23 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงตัวเลขจีดีพี 4Q23 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค. ของจีน
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- PR9 (ราคาพื้นฐาน 18.50 บาท) หุ้นกลุ่มโรงพยายามเป็นกลุ่ม defensive สำหรับช่วงที่ตลาดยังมีความคลุมเครือ อย่างไรก็ตาม PR9 มี growth story ที่ชัดเจน โดยผู้บริหารยังคงตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ที่ตัวเลขสองหลักที่ต่ำ และอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2566 ขณะเดียวกันผู้บริหารพอใจกับแนวโน้มผู้ป่วยใน (IPD) ช่วง 10 วันแรกของปี 2567 ซึ่งสะท้อนอัตราการครองเตียงที่เพิ่มขึ้น YoY นอกจากนี้ การปรับปรุงพื้นที่ชั้น 2 (ทางเข้าหลัก) จะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 1/2567 โดยน่าจะช่วยดึงดูดผู้ป่วยให้เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น และสนับสนุนการปรับขึ้นราคา ทั้งนี้ PR9 จะยังคงเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และทำตลาดผู้ป่วยต่างประเทศเพิ่มในปี 2567 รวมทั้งมีแผนที่จะอัปเกรดระบบไอทีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตามการให้สัมภาษณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป นาง Christine Lagarde ที่มีกำหนดการให้สัมภาษณ์ในเวทีงาน World Economic Forum ที่ Davos ในประเด็น The Global Economic Outlook และติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐฯ (Prelim UoM consumer sentiment) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 68.8 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 69.7 จุด