บล.ฟิลลิป

เมืองไทย แคปปิตอล – MTC คาดกำไร 4Q66 เพิ่มทั้ง y-y q-q

Key Point

คาดสินเชื่อที่เติบโตสูงที่สุดในรอบปี จะทำให้กำไร 4Q66 ของ MTC เพิ่มสูงขึ้นทั้ง y-y และ q-q และ NPL อาจจะปรับลดลง อย่างไรก็ตามต้นทุนทางก้ารเงินที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง ยังคาดหวังการเติบโตที่โดดเด่นของสินเชื่อได้ต่อในปี 67 และคาดว่าผลขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอขายจะลดลง ทำให้คาดว่ากำไรปี 67 จะกลับมาเติบโตได้ คงราคาพื้นฐาน 42.50 บาท ไม่เหลือส่วนต่างแล้ว แต่ยังมีปันผลอยู่ จึงยังคงแนะนำ “ถือ”

คาดกำไร 4Q66 เพิ่มขึ้น 15.5% y-y และ 1.7% q-q

ทางฝ่ายคาด MTC จะมีกำไร 4Q66 1,307 ลบ. เพิ่มขึ้น 15.5% y-y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และผลขาดทุนจากทรัพย์สินรอขายลดลง ถึงแม้จะคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย และการตั้งสำรองจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นด้วย 1.7% q-q จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

กำไรปี 66 ลดลง 4.5% y-y

คาดปี 66 MTC จะมีกำไร 4.9 พันลบ. ลดลง 4.5% y-y ถึงแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นมากตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ แต่การเพิ่มขึ้นมากของต้นทุนดอกเบี้ยและการตั้งสำรอง รวมไปถึงผลขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก ทำให้กำไรลดต่ำลง

สินเชื่อโตต่อ NPL อาจลดลง

ปกติในไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่สินเชื่อของ MTC มีการเติบโตสูงที่สุดในรอบปี ทางฝ่ายยังคาดว่า 4Q66 จะยังคงมองเห็นรูปแบบนี้อยู่ โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 6% และทำให้สินเชื่อของ MTC ในปี 66 เติบโตได้ 16% ต่ำกว่าเป้าที่ทาง MTC จะปล่อยสินเชื่อ 20% ไปเล็กน้อย และถึงแม้ว่าจะคาดว่าปริมาณ NPL ของ MTC อาจจะเพิ่มสูงขึ้นใน 4Q66 แต่สินเชื่อที่ขยายตัวมากกว่าจะทำให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงได้ โดย 3Q66 MTC มี NPL อยู่ 3.18%

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังจะลดต่ำลง

ทางฝ่ายคาดว่าต้นทุนดอกเบี้ยของ MTC จะเพิ่มสูงขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3.85% จาก 3.80% ในไตรมาสก่อน และจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงเหลือ 14.55% จาก 14.59% ในไตรมาสก่อน

คาดปี 67 กำไรกลับมาเติบโต แนะนำ “ถือ”

คาดว่าปี 67 สินเชื่อของ MTC จะยังคงเติบโตได้ต่อ และทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ประกอบกับคาดว่าผลขาดทุนจากทรัพย์สินรอขายจะลดลง ทำให้คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตได้ 15.6% y-y เป็น 5.6 พันลบ. ยังคงราคาพื้นฐาน 42.50 ไม่เหลือส่วนต่างแล้ว แต่ยังมีปันผลอยู่ จึงยังคงแนะนำ “ถือ”

- Advertisement -