บล.เอเซีย พลัส:

SPRC 4Q66 คาดเผชิญขาดทุน ย่ำแย่กว่าที่เคยประเมินไว้

งวด 4Q66 คาดพลิกกลับเป็นขาดทุนสุทธิ 4.3 พันล้านบาท จากเดิมที่เป็นกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาทในงวด 3Q66 กดดันจากทั้งขาดทุนรายการพิเศษราว 3.2 พันล้านบาท จากรายการสต็อกน้ำมันเป็นหลัก และขาดทุนปกติราว 1.1 พันล้านบาท ตามค่าการกลั่นที่คาดลดลงมาอยู่เพียง 2.0 จาก 8.3 เหรียญฯ/บาร์เรล ตาม SPREAD ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง และหยุดซ่อมบำรุงนอกแผน RFCCU 37 วัน ช่วงสั้น 1Q67 คาดกำไรปกติฟื้นตัว QOQ จากปริมาณขายโดยรวมที่คาดจะเพิ่มขึ้น หลังไม่มีหยุดซ่อมนอกแผน ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง และรับรู้ธุรกิจใหม่ได้ไตรมาสแรก

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 สะท้อนผลประกอบการงวด 4Q66 ที่ย่ำแย่กว่าที่เคยประเมินไว้ โดยมูลค่าพื้นฐานปี 2567 อยู่ที่ 10.9 บาท/หุ้น ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นยังถูกกดดันจากแนวโน้มงบ 4Q66 ที่อ่อนแอ และความเสี่ยงงดจ่ายปันผลทั้งปี 2566 ช่วงสั้นปรับลดคำแนะนำเป็น UNDERPERFORM เน้นเพียงหาจังหวะเข้า TRADING ช่วงสั้นตามทิศทางค่าการกลั่นที่อาดดีดตัวขึ้นเป็นระลอก

งวด 4Q66 คาดเผชิญขาดทุน จาก GRM ต่ำ + stock loss

ฝ่ายวิจัยคาดผลประกอบการงวด 4Q66 ของ SPRC จะเผชิญขาดทุนสุทธิ 4.3 พันล้านบาท จากงวด 3Q66 ที่บันทึกเป็นกำไรสุทธิ 4.2 พันล้าน กดดันจากทั้งรายการพิเศษ และผลการดำเนินงานปกติ ที่คาดพลิกกลับเป็นขาดทุน จากเดิมที่เคยเป็นกำไรพิเศษ และกำไรปกติในงวดก่อนหน้า

โดยในส่วนของรายการพิเศษ คาดสุทธิแล้วจะเป็นผลขาดทุนที่ราว 3.2 พันล้านบาท เทียบกับงวด 3Q66 เป็นกำไรพิเศษรวม 2.8 พันล้านบาท โดยหลักคาดเป็นผลมาจากการบันทึกกลับเป็นขาดทุนสต็อกน้ำมันและ NRV รวม 4.0 พันล้านบาท จากเดิมที่เคยเป็นกำไร 3.6 พันล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง จาก 93.2 เหรียญฯ/บาร์เรล ณ สิ้นงวด 3Q66 มาอยู่เพียง 77.3 เหรียญ/บาร์เรล ณ สิ้นงวด 4Q66 ถึงแม้คาดจะมีแรงหนุนบางส่วนจากการบันทึกกลับเป็นกำไร Fx และมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ราว 74.2 ล้านบาท จากเดิมเคยเป็นผลขาดทุน 163.1 ล้านบาท ตามค่าเงินบางที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ณ สิ้นงวด 4Q66 ก็ตาม

อีกทั้ง หากตัดรายการพิเศษ และพิจการณาเฉพาะผลการดำเนินงานปกติ คาดในงวดนี้จะพลิกกลับเป็นขาดทุน 1.1 พันล้านบาท เทียบกับงวด 3Q66 ที่เป็นกำไรปกติ 1.5 พันล้านบาท กดดันหลักจากค่าการกลั่น (Market GRM) ที่คาดจะปรับตัวลดลงมาอยู่เพียง 2.0 เหรียญฯ/บาร์เรล จากงวด 3Q66 ที่อยู่ในระดับ 8.3 เหรียญฯ/บาร์เรล ตาม spread น้ำมันสำเร็จรูปเกือบทุกสายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงจากระดับสูงผิดปกติในงวดก่อนหน้า หลังจากเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นหลายแห่ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปเริ่มออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ประกอบกับผ่านพ้นช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯในงวด 3Q66 มาแล้ว แม้จะยังมีปัจจัยหนุนบางส่วนจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลฤดูหนาวก็ตาม โดยในงวดนี้ คาดกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันขั้นกลาง (Middle Distillate) ได้แก่ น้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน (สัดส่วนราว 46.1% ของปริมาณผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในงวด 3Q66) จะมี spread ลดลงราว 2.4-5.8 เหรียญฯ/บาร์เรล มาอยู่ราว 21.1 – 24.5 เหรียญฯ/บาร์เรล รวมถึง spread น้ำมันเบนซิน (สัดส่วนราว 25.7% ของปริมาณผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในงวด 3Q66) คาดจะปรับตัวลดลงราว 6.4 เหรียญฯ/บาร์เรล มาอยู่ราว 12.5 เหรียญฯต่อบาร์เรล อีกทั้งต้นทุน ship to ship cost คาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย QoQ นอกจากนี้ยังมีการหยุดซ่อมบำรุงนอกแผนงานในหน่วยแตกโมเลกุลด้วยตัวเร่งปฏิกริยา (RFCCU) กำลังการผลิต 4.2 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 37 วัน ถึงแม้คาดจะมีแรงหนุนชดเชยได้บางส่วนจากปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นเพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 1.50 แสนบาร์เรล/วัน จาก 1.39 แสนบาร์เรล/วัน ในงวด 3Q66 หลังจากเสร็จสิ้นการหยุดซ่อมบำรุงหลักตามแผนในงวด 3Q66 มาแล้วก็ตาม ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวม (Utilization rate) คาดจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 85.7% จาก 79.7% ในงวดก่อนหน้า สุทธิแล้วคาดผลประกอบการพลิกกลับมาเผชิญขาดทุนขั้นต้น 5.1 พันล้านบาท จากงวด 3Q66 ทีมีกำไรขั้นต้นกำไรขั้นต้น 5.7 พันล้านบาท

อีกทั้ง คาดค่าใช้จ่าย SG&A จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 39.6 %qoq มาอยู่ที่ 361.1 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายบริหารจัดการภายในบริษัท และค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มเป็นปกติในช่วงปลายปี ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่คาดจะเพิ่มขึ้น 47.4%qoq มาอยู่ที่ 82.5 ล้านบาท จากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อเตรียมการเข้าลงทุนในกิจการใหม่

โดยรวมแล้วคาดผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 ของ SPRC จะเผชิญขาดทุนสุทธิราว 944.5 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 ที่เป็นกำไรสุทธิ 7.7 พันล้านบาท ขณะที่กำไรปกติปี 2566 คาดลดลง 94.4%yoy มาอยู่ราว 562.2 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 94.4%qoq และต่ำกว่าประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ 70.8%

ปรับลดประมาณการปี 2566…1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ

ฝ่ายวิจัยได้มีการปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566 ลง 70.8% จากเดิม มาอยู่ที่ 562.4 ล้านบาท เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานงวด 4Q66 ที่ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จากปริมาณขายน้ำมันโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงผลกระทบบางส่วนจากการหยุดซ่อมบำรุงนอกแผนงานในหน่วย RFCCU กำลังการผลิต 4.2 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 37 วัน ในช่วง 4Q66 และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆที่สูงกว่าที่เคยประเมินไว้ โดยฝ่ายวิจัย

1) ปรับลดสมมติฐานปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นในปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 1.52 แสนบาร์เรล/วัน จากเดิม 1.60 แสนบาร์เรล/วัน

2) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ขึ้นมาอยู่ที่ 2.5 จาก 2.0 เหรียญฯ/บาร์เรล

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดกำไรสุทธิปี 2566 ลง เป็นขาดทุนสุทธิ 944.3 ล้านบาท จากเดิมที่เป็นกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท เพิ่อสะท้อนผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันและ NRV รวมถึงรายการพิเศษอื่นๆที่คาดจะเกิดขึ้นในปี 2566 ราว 1.5 พันล้านบาทไว้ในประมาณการ

สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานปกติในช่วงสั้น งวด 1Q67 คาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้น QoQ หนุนหลักจากปริมาณผลิตที่คาดจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากหน่วยการผลิต RFCCU กำลังการผลิต 4.2 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดจะกลับมาดำเนินการผลิตใหม่ได้เต็มที่ทั้งไตรมาส รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันในประเทศในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงคาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่คาดจะปรับตัวลดลง QoQ หลังจากไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงนอกแผนงานดังที่เกิดขึ้นในงวดนี้ และค่าใช้จ่ายพนักงานที่คาดลดลงสู่ระดับปกติ นอกจากนี้จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเข้ามาได้ในไตรมาสแรก

แนวทางประกอบธุรกิจที่ยั่งยืน (ESG) ของ SPRC :

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) : ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมทั้งในด้านการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีการบริโภคน้ำดิบเป็นศูนย์, บริหารจัดการกากของเสียผ่านการนำของเสียเพื่อลดปริมาณการฝังกลบกากของเสีย, การป้องกันและการจัดการการหกรั่วไหล, การตรวจสอบคุณภาพอากาศ, การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการลดคาร์บอนฟุตปริ๊นส์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ด้านสังคม (Social) : มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ รวมถึงการตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนโดยครอบคลุม 4 ด้านหลักคือ ด้านการศึกษาและเยาวชน ด้านคุณภาพชีวิต ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวร่วมกับชุมชนโดยรอบ ผ่านการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการอบรม “Youth Bloggers” ให้แก่ นักเรียนระดับมัธยมปลาย ในจังหวัดระยอง เพื่อพัฒนาความสามารถของเยาวชน, โครงการ “Run For You and Sea” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระยองและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างรายได้ให้กับชุมชน

ด้านธรรมาภิบาล (Governance) : ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับกฎระเบียบ ข้อบังคับและแนวปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และมีความมุ่งหมายที่จะยึดถือตามมาตรฐานสากลขั้นสูงสุด และหลักวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดในการดำเนินงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญของ SPRC

1) ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นสินค้า COMMODITY และวัตถุดิบอื่นๆที่ใช้ในการผลิต จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของ SPRC อย่างมีนัยสำคัญ

2) อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ อาจส่งผลให้โรงกลั่นหยุดชะงัก

3) ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ในการจำหน่ายและจัดหาผลิตภัณฑ์

- Advertisement -