บล.ทิสโก้: 

BTS Group Holdings (BTS TB)

สภากทม.ไฟเขียวคืนหนี้ E&M 2.3 หมื่นลบ.

สภากทม.มีมติเห็นชอบจ่ายหนี้ติดตั้งระบบ 2.3 หมื่นล้านบาท

เมื่อวานนี้ สภากทม.มีมติเห็นชอบจ่ายหนี้ E&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วง แบริ่ง-สมุทรปรการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-ดูคตให้ BTSC มูลค่า 23,488.69 ล้านบาท (หากชำระภายในวันที่ 4 เม.ย.) ขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยก่อนจะเสนอครม. และเมื่อครม.เห็นชอบแล้ว กทม.จะจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมโดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของกทม. ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5.12 หมื่นล้านบาทเสนอต่อสภากทม.เพื่อพิจารณาต่อไป

คาดสภาพคล่องและสัดส่วนหนี้สินต่อทุนดีขึ้น ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง

เรามองว่า BTS จะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น หลังจากได้รับชำระคืนหนี้ดังกล่าว โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้และจะทำให้อัตราส่วน Net D/E ลดลงจาก 3.2x เหลือ 2.8% ซึ่งจะช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายได้ปีละประมาณ 900 ล้านบาท ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่ผิดนัดชำระ ตั้งแต่ เม.ย.17-พ.ค. 21 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด คาดจะมีผลตัดสินออกมาเร็วๆ นี้ และหากศาลปกครองสูงสุดยืนคำพิพากษาตามศาลปกครองกลาง กทม.จะต้องชำระหนี้ดังกล่าวภายใน 180 วัน

คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสถัด ๆ ไปยังดูไม่สดใส

เรามองว่ากำไรในไตรมาสถัดๆ ไปของ BTS ยังมีแนวโน้มไม่สดใส จาก 1) ไม่มีกำไรพิเศษจากการขาย RLP เหมือนใน 2023/24, 2) ธุรกิจ MOVE แม้ส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้โดยสาร รวมทั้งความคืบหน้าคดีความ แต่เราคาดว่าบริษัทจะต้องบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูที่เพิ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนนี้ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีกว่า ทั้งสายสีเหลืองและสีชมพูจะกำไร, 3) ธุรกิจ MIX คาดธุรกิจหลักยังคงมีความท้าทาย และยังคงต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX ต่อเนื่อง, และ 4) ธุรกิจ MATCH คาด TNL จะยังคงเติบโตจากทิศทางธุรกิจใหม่ที่มุ่งสู่ธุรกิจบริการทางการเงิน

อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร มูลค่าที่เหมาะสมและคำแนะนำ

ผลประกอบการในช่วง 6M23/24 ต่ำกว่าที่คาด ทำให้เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร มูลค่าที่เหมาะสมและคำแนะนำสำหรับ BTS ปัจจัยเสี่ยงมาจากการฟื้นตัวที่ช้ากว่าที่เราคาด และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู/เหลืองมากกว่าคาด

- Advertisement -