บล.กรุงศรีฯ:
KRUNG THAI BANK (KTB TB/ KTB.BK)
KTB – กำไร 4Q ออกมาน่าผิดหวังเพราะตั้งสำรองสูงเกินคาด (UNRATED)
กลุ่มอุตสาหกรรม | ธนาคาร |
หุ้น | KTB |
มูลค่าพื้นฐาน | 0.00 |
คำแนะนำ |
- Highlights from 4Q23 and FY23 results
กำไรสุทธิใน 4Q23 ต่ำกว่า consensus คาดไว้ถึง 35%
(i) กำไรสุทธิของ KTB ใน 4Q อยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท (-25% yoy, -41% qoq) ต่ำกว่า consensus คาดไว้มาก เพราะมีการตั้งสำรองสูงเกินกว่าคาดไปมาก ทั้งนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี FY23 อยู่ที่ 3.66 หมื่นล้านบาท (+9% yoy)
(ii) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII ปี FY23 เพิ่มขึ้น 25% yoy เพราะส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้น (เป็น 3.22% จาก 2.60% ในปี FY22) ในขณะที่สินเชื่อเติบโตค่อนข้างทรงตัว yoy แต่หากไม่รวมสินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อจะขยายตัว 1.5% yoy ในขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น 3% yoy หลักๆมาจากค่าธรรมเนียม bancassurance, บัตรเครดิต และรายได้ equity income จากการลงทุน
(iii) ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ในปี FY23เพิ่มขึ้น 6% yoy เนื่องจากการลงทุนในระบบ IT และผลขาดทุนจากการด้อยค่าของอสังหาริมทรัพย์รอการขาย แต่สัดส่วน C/I คุมได้ค่อนข้างดีกว่าแบงก์อื่น ลดลงอยู่ที่ 38.7% จาก 43.7% yoy
(iv) ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ในปี FY23 เพิ่มขึ้นเป็น 1.44% จาก 0.94% ในปี FY22 ในขณะที่ credit cost ใน 4Q23 พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 2.03% จาก 1.16% จาก 4Q23 และ 1.24% ใน 3Q23 เพราะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งมีเครดิตที่คุณภาพแย่ลง ทั้งนี้ สัดส่วน coverage ratio ในปี FY23 อยู่ที่ 181.2% เพิ่มขึ้น yoy จาก 179.7% ในขณะที่ NPL ลดลง yoy เหลือ 3.08% จาก 3.26.
Outlook
เราคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยและ NIM จะค่อนข้างทรงตัวในปี FY24F
ขณะที่เราคาดว่า OPEX จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะธนาคารยังเดินหน้าลงทุนในระบบ IT ต่อไป แต่เราคาดว่า credit cost ในปี FY24F จะลดลง yoy เพราะเราเชื่อว่า KTB ตั้งสำรองไว้เพียงพอแล้ว ซึ่งรวมถึงการตั้งสำรองเพิ่มจากมุมมองของผู้บริหาร เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่สามารถสะท้อนเข้าไปใน โมเดลด้านเครดิต (management overlays) ดังนั้น กำไรในปี FY24F จึงน่าจะทรงตัว หรืออาจจะโตเล็กน้อย ส่วน NPL น่าจะขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 3.08% เป็น 3.10- 3.20% ในปี FY24F แต่ยังไม่ถึงกับน่าเป็นห่วง เราคิดว่าอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) น่าจะดีขึ้น เพราะธนาคารน่าจะยังคุม NPL ไว้อยู่ ทั้งนี้ ต่อให้ไม่รวมสำรองพิเศษที่ตั้งใหม่ใน 4Q23 สัดส่วน coverage ratio ของ KTB จะอยู่ที่ 190% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดของธนาคาร
Implication
ราคาเป้าหมายตาม Consensus อยู่ที่ 23 บาท มี 10 รายแนะนำซื้อ และ 2 ถือ
เรามอง Neutral กับ KTB เนื่องจาก (1) คาดว่า credit cost จะลดลงในปี FY24F จากการตั้งสำรองที่เพียงพอสำหรับความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลงในปี FY24F (2) คาดว่ากำไรจะทรงตัว หรือโตเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทน เงินปันผลจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี และ ROE อยู่ที่ 9% และ (3) การลงทุนด้าน digitalization ที่ดำเนินการอยู่น่าจะช่วยให้ OPEX ลดลงได้ในระยะยาว