เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเชื่องช้า / 1,345- 1,365

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET เด้งเพื่อลงต่อ: คาดฟื้นตัวในช่วงสั้น หลังวานนี้ตอบรับทางลบมากเกินไปสำหรับ GDP ปี 66 ที่มีแนวโน้มยายตัวต่ำ อย่างไรก็ดี จากการที่ไร้ปัจจัยดึงดูดใหม่ รวมถึง Sentiment จากภายนอกที่เริ่มไม่สดใส ส่งผลให้มองเป็นการฟื้นตัวเพื่อลงต่อ หลังโฆษกสำนักนายกฯ เผยเอกสารการประมาณการศก.ไทยปี 66 และ 67 ของก.คลัง แสดงให้เห็นว่า GDP ปี 66 เติบโตเพียง 1.8% โดยมีปัจจัยสำคัญจากการหดตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทางฝ่ายมอง SET Index ได้ตอบรับในทางลบสำหรับปัจจัยดังกล่าวไปมากแล้ว และหากพิจารณาในรายละเอียดของการประมาณการ พบว่าเครื่องยนต์สำคัญของศก.อย่างการบริโภคภาคเอกชนและมูลค่าการส่งออกถูกปรับขึ้นสู่ +7.1% และ -1.5% จาก +5.8% และ -1.8% ณ เดือนต.ค.66 ส่งผลให้ทางฝ่ายมอง SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากภาพศก.ไทยที่ไม่ได้น่ากังวลมาก สอดรับกับมุมมองของผู้ว่าธปท.ซึ่งเผยว่าตัวเลขุประมาณการศก.ของไทยในปีนี้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ไม่ได้บ่งชี้ว่าศก.ไทยอยู่ในภาวะวิกฤต แต่เป็นศก.กำลังฟื้นตัว เพียงแต่ล่าช้ากว่าที่คาดไว้ ขณะที่วันนี้ติดตามการแถลงการประมาณการศก.ไทยปี 66 และ 67 อย่างเป็นทางการจากสศค. เพื่อประเมินภาพศก.ไทยสำหรับปี 67 อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นของ SET Index จำกัด เนื่องจากยังคงไร้ปัจจัยสนับสนุนใหม่ กอปรกับ Sentiment จากภายนอกที่เริ่มเป็นแรงกดดัน ท่ามกลางผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนในฝังสหรัฐฯหลัง 3M, J&J และ Lockheed Martin เผยคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 67 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ด้าน US Bond Yield 10 และ Dollar Index ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 4.16% และ 103.8 จุด ตามลำดับ คาดเป็น Sentiment กดดันต่อ SET Index เช่นกัน ขณะที่คืนนี้ติดตามการรายงาน PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.67 ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มศก.สหรัฐฯ
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว: AAV, ERW, MINT 2) Defensive: BCH, BDMS, BH, CHG, INTUCH 3) Short-sell: BJC, CPALL, CPAXT, SAWAD, SCC, SCGP, TIDLOR และ 4) Selective: BCP, PTTEP, SABINA

ปัจจัยบวก

  • ก.การท่องเที่ยวฯเผยไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-21 ม.ค.67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 2.06 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 97,911 ลบ.
  • กรมพัฒฯเผยปี 66 นักลงทุนไทยแห่จัดตั้งธุรกิจใหม่ 8.5 หมื่นราย ซึ่งเป็นยอดการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี (57-66) ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.6 แสนลบ. และคาดปี 67 เพิ่มขึ้นประมาณ 5 – 10%
  • แหล่งข่าวเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนกำลังประเมินการใช้มาตรการมูลค่า 2 ล้านล้านหยวนเพื่อฟื้นฟูตลาดหุ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสร้างเสถียรภาพที่มีเป้าหมายเพื่อเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนผ่านทางโครงการ Hongkong Exchange Link

ปัจจัยลบ

  • SCB EIC ประเมินว่าปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปี 66 จะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรไม่ต่ำกว่า 5.17 หมี่นลบ. โดยความเสียหายจะเกิดขึ้นในปี 66 ราว 1.93 หมื่นลบ. และในปี 67 อีกราว 3.24 หมื่นลบ.
  • บรรดาธุรกิจในอังกฤษแสดงความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักทางการค้าระลอกใหม่ในยุค หลังเบร็กซิต Brexit เนื่องจากผู้ส่งออกใน EU ขาดความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านศุลกากรใหม่ของอังกฤษ ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนนี้ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือของอังกฤษอาจไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน
  • Gallup เผยข้อมูลว่าพนักงานที่ไม่พึงพอใจกับการทำงานส่งผลให้บริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ สูญเสียผลิตภาพประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 66

PICKS OF THE DAY

MINY BUY

  • เป้าหมาย 29.00 / 30.00 แนวรับ 27.00
  • อัตราการเข้าพักแน่น โตต่อทั้งใน 4Q66 และ 1Q67: Core Revenue ใน 3Q66 ยังเติบโตได้ดี +12%y-y ทำให้ผลประกอบการ 9 เดือนโต 27%y-y ผู้บริหารเผยรับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ และ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยุโรป ด้านผลประกอบการ 4Q66 ได้แรงหนุนต่อจากตัวเลขอัตราเข้าพักโรงแรมในไทยกลับไปช่วงก่อนโควิดแตะระดับ 75% และในต้นปี67ปริมาณการจองห้องพักจะโต 20-30%y-y
  • ภาระหนี้สินทยอยลดลง: บริษัทได้ชำระหนี้สินบางส่วนก่อนกำหนด ทำให้ อัตราส่วน D/E เหลือเพียง 1 เท่า ณ สิ้นปี 66 น้อยกว่าในปี 65 ที่อยู่ที่ 1.15 เท่าลดความเสี่ยงจากผลกระทบดอกเบี้ยขาขึ้น และจะช่วยหนุนกำไรสุทธิให้ดีขึ้นผ่านดอกเบี้ยจ่ายที่น้อยลงตาม

SCC SHORT

  • เป้าหมาย 255.00 / 260.00 แนวรับ 270.00
  • คาดงบปรับตัวลงแรง: คาดงบ 4Q66 ปรับตัวลงแรงเนื่องจากการฟื้นตัวยังไม่มาตามคาด โดยธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจะทรงตัวจาก 3Q66 เช่นเดียวกับธุรกิจเคมิคอลส์ยังต้องรอการฟื้นตัวที่ชัดเจน นอกจากนี้จะมีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์โรงงานปูนที่อาจทำให้กำไรลดลงมากกว่าคาด
  • บริษัทลูกฟื้นช้ากว่าคาด : SCGP ประกาศงบ 4Q66 ลดลง 8% q-q ซึ่งแย่กว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนยังค่อนข้างช้า และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะมีการปรับลดประมาณการกำไรและราคาพื้นฐานลง
- Advertisement -