บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Major Cineplex Group (MAJOR.BK/MAJOR TB)
ประมาณการ 4Q66F: พลังแรงของภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง
Event
ประมาณการกำไร 4Q66
Impact
การเติบโตของกำไรสุทธิแข็งแกร่ง (+281% YoY และ +178% QoQ)
เราประเมินว่า MAJOR จะรายงานกำไรสุทธิใน 4Q66F แข็งแกร่งที่ 290 ล้านบาท (+281% YoY และ +178% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ จะมาจากการเติบโตของรายได้เร่งตัวขึ้น 50%YoY และ 64% QoQ ด้วยภาพยนตร์ไทยประสบความสำเร็จหลายเรื่อง (เช่น สัปเหร่อ ธี่หยด และ 4 คิงส์ 2) ช่วยหนุนยอดขายทั้งการเข้าชมและเครื่องดื่มกับขนมขบเคี้ยวดี รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 38.1% ตามการประหยัดจากขนาด หากรวมประมาณการกำไร 4Q66F ของเรา กำไรปี 2566F จะอยู่ที่ 997 ล้านบาท (+296% YoY) คิดเป็น 104% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา
คาดทั้งรายได้และอัตรากำไรใน 4Q66F แข็งแกร่ง
จากผลตอบรับดีอย่างมากของภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง เราจึงคาดรายได้ใน 4Q66F ของ MAJOR พุ่งขึ้นแรงอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+50 YoY และ +64% QoQ) และปี 2566F อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท (+33% YoY) ขณะที่ ยอดขายจากการเข้าชม (55% ของรายได้รวม) จะเพิ่มแข็งแกร่งอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+70% YoY และ +93% QoQ) ส่วนยอดขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว (27% ของรายได้รวม) จะอยู่ที่ 777 ล้านบาท (+50% YoY และ +73% QoQ) ทั้งนี้ ยอดขายตั๋ว (box-office) ของหนังทำเงิน 5 อันดับแรกใน 4Q66 ได้แก่ สัปเหร่อ (509 ล้านบาท) ธี่หยด (341 ล้านบาท) 4 คิงส์ 2 (167 ล้านบาท) Aquaman และ The Lost Kingdom (88 ล้านบาท) และ The Marvels (48 ล้านบาท) ในด้านรายได้จากการขายโฆษณาคาดเพิ่มขึ้น 18% YoY อยู่ที่ 264 ล้านบาทแต่ทรงตัว QoQ เพราะฐาน 3Q66 สูง การที่รายได้พุ่งแรงทำให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นมากทั้ง YoY และ QoQ อยู่ที่ 38.1% (เพิ่มจาก 35.1% ใน 4Q65 และ 32.9% ใน 3Q66) ทำให้ GPM ปี 2566F อยู่ที่ 33.1% ในแง่ค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหารคาดเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เพราะมีเงินโบนัสค้างจ่ายและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ด้านการตลาด ขณะที่ สัดส่วน SG&A/ยอดขาย น่าจะอยู่ที่ 25.4% ใน 4Q66F (เทียบกับ 31.9% และ 4Q65 และ 23.1% ใน 3Q66)
คงประมาณการกำไร – เฝ้าติดตามผลตอบรับจากภาพยนตร์ต่อไป
ในเบื้องต้น เราคาดกำไรใน 1Q67F อ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season แต่กำไรดีขึ้น YoY ขณะที่ บริษัทจะมีการรับรู้รายได้ภาษีอยู่อีกราว 140 ล้านบาทใน 1Q67F ซึ่งยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการกำไรปี 2567 ของเรา ในปี 2567 เราคิดว่าหนังดังที่รอเข้าฉายจากค่าย Hollywood อีกหลายเรื่องยังไม่น่าดึงดูด แต่อย่างไรก็ดี เราคาดภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องยังมีโมเมนตัมเป็นบวกและจะช่วยหนุนหลักให้รายได้ของ MAJOR มีการเติบโตที่ดี ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปี 2566F อยู่ที่ 955 ล้านบาท (+279% YoY) และลดลงอยู่ที่ 816 ล้านบาท (-15% YoY) ในปี 2567F
Valuation & Action
เราคงราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 20.60 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.6%
และ terminal growth ที่ 0.5%) ขณะที่ คาดผลการดำเนินงานดีใน 4Q66F และอาจมี upside ต่อราคาเป้าหมายของเรา และยังคงคำแนะนำซื้อหุ้น MAJOR
Risks
รายได้จากโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาด