บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

TMBThanachart Bank (TTB.BK/TTB TB)*

ผลประกอบการ 4Q66 & 2566; กำไรดีกว่าคาด

Event

กำไรสุทธิของ TTB ใน 4Q66 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท (+3% QoQ, +26% YoY) สูงกว่า consensus 9% และ สูงกว่าประมาณการของเรา 14% โดยมีหลายรายการที่ผิดความคาดหมายไปเพราะมีการปรับเปลี่ยนทางบัญชี ในขณะเดียวกัน กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท (+30%)

Impact

มีการเปลี่ยนแปลงรายการทางบัญชีในการบันทึกสิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax shield)

TTB บันทึกการกลับรายการภาษีเงินได้ โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax shield) จากผลขาดทุนที่เกิด จากการขายสินทรัพย์ของ Tbank หลังทำธุรกรรมควบรวม และขาย Tbank เสร็จเรียบร้อย ซึ่งทำให้เกิดผลขาดทุนมากกว่า 2.0 หมื่นล้านบาท และธนาคารสามารถใช้เป็น tax shield สำหรับการดำเนินงานของ TTB ไปได้ห้าปี ทั้งนี้ หลังจากใช้ tax shield ไปประมาณ 4.2 พันล้านบาทแล้ว ยังมีส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1.55 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถใช้ลดค่าใช้จ่ายภาษีไปได้อีกจนถึงปี 2571 ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการอัตราภาษีจ่ายจริง (effective tax rate) จากปี 2567-25671 เหลือ 15%

นำส่วนที่กลับรายการภาษีมาใช้ตั้งสำรอง

ธนาคารนำรายได้ส่วนเกินจากการกลับรายการค่าใช้จ่ายภาษีมาตั้งสำรองพิเศษ ทำให้ยอดกันสำรองพุ่งขึ้นไปเป็น 9.3 พันล้านบาท คิดเป็น credit cost ที่ 2.9% (จากระดับเฉลี่ยที่ 1.25% ในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา) และทำให้สัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 155% (จาก 145% ในไตรมาสก่อน) ซึ่งผู้บริหารของธนาคารบอกว่าธนาคารตั้งใจจะเสริมส่วนรองรับเผื่อผลขาดทุนจากมูลค่าหลักประกันที่เสื่อมลง แลผลขาดทุนจากการขายรถที่ยืดมา หลังจากที่ราคารถมือสองในตลาดลดลงอย่างมาก

ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก ยังประคองตัวได้ดี (-2% QoQ, +4% YoY ใน 4Q66, +11% ในปี 2566)

ผลประกอบการ 4Q66 สะท้อนการดำเนินธุรกิจในโหมดระมัดระวัง โดยสินเชื่อหดตัวลงประมาณ 3% QoQ และ YoY ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากสินเชื่อธุรกิจ (30% ของสินเชื่อรวม) ซึ่งลดลงประมาณ 9% QoQ และ 12% YoY ในขณะที่สินเชื่อ SME หดตัว 3% QoQ และ 10% YoY ในขณะที่สินเชื่อ H/P ทรงตัว โดยมีเพียงสินเชื่อจำนำทะเบียนเท่านั้นที่ยังโตได้ในระดับสองหลัก นอกจากนี้ NIM ยังขยับเพิ่มขึ้นประมาณ 7bps QoQ และ 30bps YoY ในขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกรรมการธนาคารหลักก็ขยับเพิ่มขึ้น QoQ แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกลับเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่า โดยสรุปแล้ว กำไรจากธุรกิจหลักลดลง 2% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 4% YoY ใน 4Q66 และเพิ่มขึ้น 11% ในปี 2566

ปรับเพิ่มกำไรปี 2567F/2568F ปีละ 6% และเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2567F เป็น1.84 บาท (PBV ที่ 0.75x)

การปรับประมาณการของเราสะท้อนถึง 1) อัตราภาษีจ่ายจริงที่ลดลงเหลือ 15% 2) รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นเป็น ..%/..% ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลเป็น 55% ซึ่งจากราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ประมาณ 5-6% เราได้ทำการปรับเพิ่ม PBV เป็น 0.75x (จากเดิม 0.7x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 1.84 บาท ถือ TTB เพื่อผลตอบแทนจากเงินปันผล

Risks

มีผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมามากขึ้น และ รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง

- Advertisement -