บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
SCB X (SCB TB)
ขาดปัจจัยบวกแต่ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลน่าสนใจ
- SCB รายงานกำไรสุทธิ 4Q23 ดีกว่าคาดมาก โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ลดลง
- หนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) เพิ่มในขณะที่สัดส่วนสำรองต่อหนี้ด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ลดลงจากสินเชื่อ SME และที่อยู่อาศัย
- เราปรับลดประมาณการปี 2024-25 และราคาเป้าหมายปี 2024 ลงแต่คงคำแนะนำซื้อ
กำไรสุทธิ 4Q23 สูงกว่าที่เราคาดจาก ECL ที่ลดลง
SCB รายงานกำไรสุทธิ 4Q23 อยู่ที่ 11พัน ลบ. เพิ่มขึ้น 13.8% q-q และ 53.9% y-y (จากฐานที่ต่ำ) กำไรดังกล่าวสูงกว่าที่เราและตลาดคาดอยู่ 23% และ 21% ตามลำดับ ส่วนมากจาก ECL และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยชดเชยการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม (ส่วนมากจากธุรกิจ Bancassurance และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิ (ส่วนมากจากกำไรจากการตีมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนผ่านกำไรขาดทุน) กำไรก่อนหักสำรองใกล้เคียงกับที่คาดไว้ โดยอยู่ที่ 23 พัน ลบ. (7.4% q-q, +32.3% y-y) ในรอบปี 2023 กำไรสุทธิอยู่ที่ 43.5พัน ลบ. เพิ่มขึ้น 15.9% y-y จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและส่วนต่างดอกเบี้ยในท่ามกลางการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว รายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอ รวมถึง ECL และต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ (Credit cost) ที่ปรับขึ้น
คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง
ใน 4Q23 คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าที่คาด ธนาคารฯ รายงานสัดส่วน NPL เพิ่มเป็น 3.44% จาก 3.30% ใน 3Q23 ส่วนมากจากสินเชื่อ SME และรายย่อย การก่อตัวของ NPL เพิ่มขึ้นใน 4Q23 คิดเป็นอัตราส่วน 0.69% จาก 0.56% ใน 3Q23 ซึ่งทำให้ตัวเลขปี 2023 เพิ่มเป็น 2.24% จาก 1.91% ในปี 2022 ส่วนมากจากสินเชื่อ SME และที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ECL ต่ำกว่าคาดโดยมี Credit cost อยู่ที่ 153bp (เราคาดไว้ที่ 201bp) หลังการจัดสรรสำรองล่วงหน้า รวมถึง Management overlays เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคตใน 3Q23
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2024-25 เพื่อสะท้อนเป้าประมาณการปี 2024
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ลงประมาณ 2-7% เพื่อสะท้อนเป้าประมาณการในปี 2024 ของธนาคารฯ ส่วนมากจากการปรับลดสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อ และการปรับเพิ่มสมมติฐาน Credit cost นอกจากนี้ SCB ยังย้ำในที่ประชุมนักวิเคราะห์ หลังผลประกอบการ 4Q23 ว่า 15-20% ของพอร์ตสินเชื่อรายย่อยภายใต้โครงการปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดสร็จมีความเสี่ยงที่จะถูกลดชั้นจากโอกาสที่คุณภาพสินเชื่อจะเสื่อมลงอีกภายใน 12-14 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดีธนาคารฯ ย้ำว่า Credit cost ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วใน 3Q23 และ ECL ในปัจจุบัน (รวม Management overly ในระดับสองหลักกลางถึงสูง) ยังมากพอที่จะรับมือกับการลดชั้นของสินเชื่อของลูกค้าในกลุ่มนี้ในอนาคต
คงคำแนะนำซื้อ จากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่น่าสนใจที่ประมาณ 7% ต่อปี
เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2024 ของเราเป็น 118 จาก 121 บาท (GGM) เพื่อสะท้อนการปรับค่า Risk-free rate ขึ้นเป็น 3.0% (จาก 2.5%) ราคาดังกล่าวคิดเป็นค่า P/BV ได้ที่ 0.80x (จาก 0.81x) พร้อม Upside อีกกว่า 10% เราคงคำแนะนำซื้อ SCB จากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลต่อปีที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 7% ต่อปี