บล.บัวหลวง: 

Bank – เลือกผู้ที่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง (NEUTRAL)

เราคาดการเติบโตของกำไรปี 2567 ที่ 4% YoY สำหรับกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ โดยหนุนจากการตั้งสำรองที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อ และ NIM ที่สูงขึ้น มูลค่าดูน่าสนใจและคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยปีนี้ที่สูงกว่า 5% โดยเราชอบ BBL และ SCB มากที่สุด

กำไรไตรมาส 4/66 ตรงกับที่เราคาด (แต่ต่ำกว่าตลาดคาด)

7 ธนาคารที่เราให้คำแนะนำ รายงานกำไรสุทธิรวมไตรมาส 4/66 ที่ 4.27 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY แต่ลดลง 15% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาดถึง 9% กำไรสุทธิของ SCB และ TTB สูงกว่าคาด (อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อหนี้เสียของ SCB ต่ำกว่าที่เราคาดไว้และ TTB ได้ใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี) ในทางตรงกันข้าม กำไรของ BBL KKP และ KTB ต่ำกว่าที่เราคาด โดยหลักมาจากการตั้งสำรองที่มากกว่าคาด (สำหรับ KTB) ขาดทุนจากการขายรถยึดมากกว่าคาด (สำหรับ KKP) และขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานที่มากกว่าคาด (สำหรับ BBL) กำไรสุทธิของ KBANK และ TISCO ตรงกับที่เราคาด

KBANK TTB และ BBL เป็นผู้นำการเติบโต YoY

KBANK รายงานกำไรที่เติบโตเร็วที่สุด YoY ในไตรมาส 4/66 ที่ 194% หนุนจากการตั้งสำรองที่ลดลงและ NIM ที่ขยายตัวขึ้น (ลดลง 17% QoQ เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นตามฤดูกาล) TTB รายงานการเติบโตของกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 26% YoY และ 3% QoQ (การใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและ NIM ที่ขยายตัวขึ้น) BBL รายงานกำไรที่เติบโต 17% YoY หนุนจาก NIM ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองที่ลดลง (ลดลง 22% QoQ เนื่องจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ที่สูงขึ้น) SCB ประกาศกำไรสุทธิที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 14% QoQ โดยได้แรงหนุนจาก NIM ที่ขยายตัวขึ้น

ในทางตรงกันข้าม KKP รายงานกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 670 ล้านบาท ลดลง 53% YoY และ 48% QoQ เนื่องจากขาดทุนจำนวนมากจากการขายรถยึดขณะที่ KTB มีกำไรสุทธิที่ 6.1 พันล้านบาท ลดลง 25% YoY และ 41% QoQ จากการตั้งสำรองที่มากขึ้น TISCO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลง 1% YoY และ 5% QoQ จาก NIM ที่ลดลง

ปรับลดกำไรรวมปี 2567 ของกลุ่มธนาคารที่ให้คำแนะนำลง 3%

เราได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิรวมของกลุ่มธนาคารปี 2567 ลง 3%  เนื่องจากเราได้ปรับลดประมาณการ KTB (ลง 12%) KKP (ลง 9%] และ TISCO (ลง 7%) จากสมมติฐานอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อสินเชื่อที่สูงขึ้น (สำหรับ KTB และ TISCO) และปัจจุบันเราคาดผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่มากขึ้น (สำหรับ KKP) ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567-68ของเราสำหรับ BBL KBANK SCB และ TTB ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เราคาดกลุ่มธนาคารจะรายงานกำไรสุทธิรวมในปี 2567 ที่ 2.04 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 3% YoY NIM ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองที่ลดลง เราคาดว่า BBL จะเป็นผู้นำการเติบโต YoY สูงที่สุดที่ 8% ตามด้วย KBANK ที่คาดกกำไรเติบโต 7% YoY ตามด้วย KTB (เพิ่มขึ้น 3% YoY) TTB (เพิ่มขึ้น 2% YoY) และ SCB (เพิ่มขึ้น 2% YoY) ในทางตรงกันข้าม เราคาด KKP จะมีกำไรปี 2567 ที่ 5.1 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และเราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2567 ของ TISCO จะทรงตัว YoY

 

- Advertisement -