Sideways 1630 – 1650

ตลาดหุ้นวันนี้

  • Sideways: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้กว่าตัวออกข้างระหว่าง 1630 – 1650 จุด ท่ามกลางการผสมกันระหว่างปัจจัยบวกและลบ ขณะที่ช่วงกลางสัปดาห์ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการ 1 วัน นักลงทุนจึงอาจชะลอการลงทุนออกไปก่อนบางส่วน โดยปัจจัยเชิงบวกที่สนับสนุนตลาด ได้แก่ 1) สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศททีทมีพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดอังกฤษประกาศถอดประเทศไทยออกจากบัญชีแดง 2) พัฒนาการของยาเม็ดต้าน COVID-19 ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้น และ 3) ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ยังยืนอยู่ในระดับสูงท่ี 79.35 ดอลลาร์สรอ.ต่อบาร์เรล คาดจะช่วยประคองหุ้นกลุ่ม ENERG ไว้ได้ ส่วนปัจจัยเชิงลบที่ยังปกคลุมตลาดอยู่ ได้แก่ 1) ตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ก.ย.ออกมาเพิ่มขึ้นเพียง 1.94 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการที่จะเพิ่มขึ้น 5.00 แสนรายไว้มาก และ 2) ความกังวลการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้ออาจกลับมาอีกครั้ง จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นต่อ รวมถึงความสามารถในการจับจ่ายของสหรัฐที่จะมีมากขึ้น หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้
  • อังกฤษถอดไทยออกจากประเทศบัญชีแดง มีผลทันทีวันนี้:  สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยที่มีพัฒนาการดีขึ้น โดยการถอดประเทศไทยออกจากบัญชีแดง มีผลให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม (เฉพาะ Pfizer Moderna AstraZeneca และ J&J) จะสามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้โดยไม่ต้องกักตัว 10 วัน แต่สำหรับผู้ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ ยังจำเป็นต้องกักตัว 10 วันตามเดิม
  • Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP สหรัฐ: สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Goldman Sachs ประกาศปรับลดการเติบโต GDP ของสหรัฐ จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัว 5.7% y-y ลดเหลือ 5.6% y-y และสำหรับปีหน้าเดิมคาดว่าจะขยายตัว 4.4% y-y ลดเหลือเป็น 4.0% y-y โดยเหตุผลหลักๆ มาจากการคาดการณ์ว่าภาคการบริโภคจะฟื้นตัวช้า รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิป (Semiconductor) จะยังไม่คลี่คลายจนถึงครึ่งปีหลังของปี 2565
  • ปัจจัยสำคัญน่าติดตามในสัปดาห์นี้: 1) ติดตามผลการประชุมร่วม World Bank Group/International Monetary Fund Annual Meetings ประจำปี 2564 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันท่ี 11-17 ต.ค. จึงน่าจับตาการให้มุมมองและการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าของ IMF 2) วันพุธติดตามตัวเลข CPI และ Core CPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 0.3% m-m ทั้งคู่ 3) วันพฤหัสบดีติดตามตัวเลข PPI และ Core PPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 0.6% m-m และ 0.5% m-m ตามลำดับ

Picks Of the day

BEM BUY

  • มีสัญญาณฟื้นตัวหลังคลายล็อคดาวน์: หลังคลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย. เห็นสัญญาณฟื้นตัว โดย ก.ย. ผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าต่อวัน +32% และ +60% จาก ส.ค.
  • 4Q64 คาดฟื้นตัวอย่างมีนัย q-q: ศบค. มีการผ่อนคลายมาตรการอย่างต่อเนื่อง คาดผู้ใช้บริการจะฟื้นตัวเป็นลำดับ และการเร่งฉีดวัคซีนให้นักเรียน การเปิดเรียนจะมีความชัดเจนมากขึ้น และปี 2565 จะฟื้นตัวโดดเด่นหลังกลับมาใกล้เป็นปกติ

PTTGC BUY

  • 3Q64 กำไรอ่อนลงตามสเปรด: 3Q64 คาดกำไรจะอ่อนลงตามสเปรดผลิตภัณฑ์ที่ลดลง แต่ฝั่งต้นทุนจะกระทบไม่มาก เนื่องจากต้นทุนหลักมาจากก๊าซ ขณะที่สัดส่วนการใช้นาฟทามีเพียง 20-25% เท่านั้น
  • แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ยังดี: แม้อุปทานใหม่ในจีนทยอยเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าอาจมาช้ากว่าคาด จากปัญหาการผลิตในจีน แต่ฝั่งอุปสงค์คาดยังดี หลังการฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ปีหน้าจะอยู่ที่ราว 1,100$/ตัน
- Advertisement -