Daily Focus: Earnings and Selective Play

2024 SET Target : 1520

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พักตัวระยะสั้น หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้า โดยระหว่างวันดัชนีปรับลงราว 10 จุด ก่อนจะลดช่วงลงเหลือปิดลบ 5.10 จุด ณ สิ้นวันที่ระดับ 1,376.09 จุด โดยเห็นแรงซื้อ-ขายในหุ้นขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างผสมผสาน สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเร่งขึ้นเป็น 1.8 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 2 พันลบ. (และพลิกมา Short Index Futures 2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,370-1,382 จุด โดยกลุ่มพลังงานคาดนำตลาด หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง โดยล่าสุด Brent ขึ้นมายืนเหนือ US$82 ต่อบาร์เรล ขณะที่ตัวเลข GDP 4Q23 ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด +3.3% q-q SAAR และทำให้ GDP ปี 2023 +2.5% เร่งตัวจากปี 2022 ที่ +1.9% ดีกว่าที่ตลาด เคยมองว่าจะชะลอตัวลง ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้คือตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ธ.ค. ตลาดคาด Core PCE +0.2% m-m, +3% y-y หากออกมาตามคาดหรือต่ำกว่าคาดจะยิ่งตอกย้ำและทำให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของ FED มากขึ้น ล่าสุดความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค. ขยับขึ้นมาที่ 50% จาก 40% ในช่วงก่อนหน้า ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกเดือน ธ.ค. (ตลาดคาด +6% y-y) และโฟกัสหลักยังอยู่ที่การทยอยคาดการณ์และประกาศกำไรฝั่ง Real Sector ของบจ.ว่าจะฟื้นตัวได้ดีมากน้อยเพียงใด รวมถึงการปรับประมาณการปี 2024 หลังจากนั้น ภาพรวมเรายังมองการปรับฐานของดัชนีตั้งแต่ต้นปียังทำให้ภาพระยะกลาง-ยาวน่าสนใจในการลงทุนจาก Valuation ที่ดึงดูดมากขึ้น โดยปัจจุบันเทรด 2024PER ราว 14.5 เท่า และมี EY Gap ที่กว่า 4.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2024 แข็งแกร่ง และ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid

หุ้นเด่นเดือน ม.ค.: CHG, COM7, GFPT, SAPPE, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 77 บาท
  • เราคาดกำไร 4Q23 แข็งแกร่งที่ 4.7 พันลบ. +11% q-q, +63% y-y หนุนจากยอดขายที่เติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจทั้ง CVS Wholesale และ Retail ที่มี SSSG เป็นบวก ส่วนค่าใช้จ่ายยังควบคุมได้ดี รวมถึงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยของ CPAXT ที่ลดลงหลัง Refinance
  • เราปรับประมาณการกำไรปี 2023-24 ขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.72 หมื่นลบ. +30% y-y และ 2 หมื่นลบ. +16% y-y จากผลการดำเนินงาน Lotus’s ที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2024PER เพีย่ง 23.7 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่ 30 เท่า
  • แนวรับ 51.50//50.50 บาท แนวต้าน 54//56.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคสุทธิ US$716 ล้าน อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินกระจุกตัวเฉพาะไต้หวันที่ไหลเข้า US$801 ล้าน ส่วนประเทศอื่นเม็ดเงินทรงตัว ส่วนไทยไหลออกสูงสุดที่ US$57 ล้าน อย่างไรก็ตามแนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้คาดว่าจะยังไหลเข้าหลัง GDP 4Q23 สหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด ขณะที่คืนนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ หากชะลอตัวลงต่อเนื่องจะเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและเพิ่มโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) MTC คาดกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 1.2 พันลบ. 4.9% q-q, +8% y-y จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานตามฤดูกาลและการตั้งสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น แม้รายได้รับสุทธิปรับเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อ ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อจำนำทะเบียน ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยังหดตัว Spread คาดหดตัว 49bp จากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่เร่งตัวขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์บริการจัดการได้ดี คาด NPL ratio ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 3.31% คงประมาณการกำไรปี 2023 แต่ปรับลดปี 2024-25 ลงเ 2.7-3.2% เป็นการเติบโต 24.8% y-y และ 29.2% y-y ตามลำดับ เพื่อสอดคล้องกับ guidance ปี 2024 หลักๆ มาจาก Spread ที่ปรับลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 43 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี upside จำกัด ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ”

(+) BEYOND Service charge ของโรงแรม Four season และ Capella ทำ new high ในช่วง 21 ธ.ค. 23-20 ม.ค. 24 โดย +10% y-y และ +1% y-y ตามลำดับ ทำให้คาดว่า ADR ใน 4Q23 น่าจะดีกว่าที่เราคาดเดิม และ RevPAR น่าจะโต 14% y-y ดังนั้นคาดว่า 4Q23 กำไรมีโอกาสทำ new high และดีกว่าที่คาดเดิมที่ 15 ลบ. แนวโน้มโมเมนตัมดีต่อเนื่องในเดือน ม.ค. โดยคาดว่า OCC rate จะขึ้นไปแถว 55-60% จาก demand คนจีนช่วงก่อนวันตรุษจีน เป็นหุ้นทางเลือกในกลุ่ม Thai hotel เข้ากับตีมการลงทุนปีนี้ ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีน ฟื้น ราคาหุ้นปัจจุบันไม่แพงเทรด PBV เพียง 0.6 เท่า ราคาเป้าหมาย 22 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

(+) IPO ใหม่ SPREME ประกอบธุรกิจ System Integrator ให้บริการซ่อมแซมบำรุงรักษาให้เช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เน้นงานโครงการภาครัฐโดยเฉพาะหน่วยงานการศึกษา จุดแข็งคือ ทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี มีความเชี่ยวชาญในงานโครงการภาครัฐ ด้วยอัตราการชนะประมูล 60-70% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิต่อเนื่อง แม้มีทิศทางลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 เราคาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2023-25) มีกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 36% CAGR จากการเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นตาม Product mix และ Customer mix เราประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 4.50 บาท อิง PE 15 เท่า ใกล้เคียงกลุ่ม (Finansia เป็นผู้จัดจำหน่ายฯ)

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.74 จุด หรือ +0.64% ปิดที่ 38,049.13 จุด โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลข GDP ของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4/2566 อย่างไรก็ดี การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นเทสลาส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ลดช่วงบวก

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นโนเกียพุ่งขึ้น หลังการเปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด  ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการที่ ECB ตรึงอัตราดอกเบี้ยตามคาด

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดทรงตัว แม้มีรายงาน GDP สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่สัญญาเงินเฟ้อชะลอลง ขณะที่นักลงทุนจับตามองรายงานเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในวันนี้

(0) ค่าเงินบาท ทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 35.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 3.02% ปิดที่ 77.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผย GDP ที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4/2566 นอกจากนี้ สถานการณ์ดึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 77.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.35%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 2,036.80ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2566 ในขณะที่เช้านี้ปรับลงที่ระดับ 2,041.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.24%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 858.93/ –

- Advertisement -