Tourism and Transport sectors: ติดตาม ศบค. ปลดล๊อกแอร์ไลน์ขายตั๋วได้มากขึ้นเป็น 70%-100% ของที่นั่งทั้งหมด (จากปัจจุบันที่ 50%) ทั้งนี้รองผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมของธุรกิจการบินของไทยในปีที่แล้วหลังจากที่มีล็อกดาวน์ห้ามการเดินทางจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ระลอก 1 ช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. และเริ่มมาผ่อนคลายในเดือน ก.ค. พบว่าธุรกิจการบินของประเทศไทยกลับมาได้เกือบ 100% ในช่วงปลายปี (ไม่รวมตลาดต่างประเทศ) เชื่อว่าปลายปีนี้ธุรกิจการบินสามารถกลับมาได้เร็วเช่นกัน โดย Air Asia มีแผนใช้เครื่องจาก 10 ลำ ในปัจจุบัน เป็น 20 ลำในเดือน พ.ย. และ เพิ่มเป็น 30 ลำในเดือน ธ.ค.

EV related sector: ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ในวันที่ 11 ต.ค. ในส่วนการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีความคืบหน้าแล้วมากกว่า 50% รวมถึงแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อให้บรรุลเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (รถอีวี) ให้ได้ 30% ในปี 2573

Energy sector: ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ในวันที่ 14 ต.ค. เพื่อหารือประเด็นการลดการผสมไบโอดีเซลจาก B10 และ B7 ให้เหลือ B6 ซึ่งจะมีผลระหว่างวันที่ 11-31 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะกระทบการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (B100) หายไปกว่า 1 ใน 4 ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาผลปาล์มปัจจุบันที่จำหน่าย กก.ละ 7-8 บาท รวมถึงยอดขายของกลุ่มผู้ผลิต B100 ด้วย ได้แก่ GGC, PTG, EA, AIE, BCP เป็นต้น ติดตามทิศทางราคาถ่านหินในสัปดาห์หน้าหลังจีนสั่งให้เหมืองถ่านหินกว่า 70 แห่งในมองโกเลียเร่งเพิ่มการผลิตเกือบ 100 ล้านตัน หรือ 3% ของการบริโภคถ่านหินทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามจีนยังคงเผชิญอุปสรรคในการเพิ่มอุปทานถ่านหิน หลังมณฑล Shanxi ซึ่งเป็นมณฑลที่ผลิตถ่านมากที่สุดในจีน (ประมาณ 1/4 ของทั้งประเทศ) ประสบปัญหาอุทกภัยและดินถล่ม โดยราคาถ่านหินล่วงหน้า ICE NewCastle Coal Oct ’21 ปรับตัวขึ้น 2.9% DoD เป็น $238.6/ton เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

Financial sector: ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในวันพุธ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทาง Bond yield โดยแม้ตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำคาดที่ 194,000 ตำแหน่ง (เทียบคาดการณ์ที่ 500,000 ตำแหน่ง) แต่ US10Y yiled ยังบวก 6bps. เป็น 1.60% หลังตัวเลขอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.8% และค่าจ้างรายชั่วโมงเดือน ก.ย. ปรับตัวขึ้น 0.6% MoM และ 4.6% YoY ซึ่ง US10Y yield ที่ขึ้นจะดึงให้ Thai 10Y yield ปรับตัวขึ้นตาม เป็นบวกกับกลุ่ม Bank (มี correlation กับ Thai 10Y yield 80%) และ BLA (มี correlation กับ Thai 10Y yield 74%)

มุมมองตลาดหุ้น วันนี้คาด 1635-1645 หุ้นแนะนำ SAT

1) SAT (ราคาพื้นฐาน 24.00 บาท) เราคาดว่าแรงกดดันจากปัญหาชิปขาดแคลนซึ่งส่งผลต่อยอดการผลิตและ GPM อ่อนตัวลง จะแตะระดับต่ำสุดแล้วในไตรมาสสามและจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสสี่ 2564 ทั้งนี้เรามีมุมมองบวกต่อทิศทางการเติบโตของบริษัทระยะยาว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตาม การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ดัชนี Zew Economic Sentiment ของเยอรมัน เดือน ต.ค. คาด -9.4% เป็น 24 จุด Consumer inflation expectation ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +5.3% YoY ตัวเลข JOLTs Job Opening ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 10.925M (ทรงตัว MoM) และการประมูลพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ

วันพุธ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีนเดือน ก.ย. คาด +21.5% YoY และ +19.2% YoY ตามลำดับ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเดือน ส.ค. คาด -1.6% MoM ตัวเลข Inflation ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.3% MoM และ +5.3% YoY ส่วน Core inflation ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.3% MoM และ +4% YoY และ FOMC minutes

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Inflation ของจีนเดือน ก.ย. คาด +0.3% MoM และ +0.9% YoY ตัวเลข PPI ของจีนเดือน ก.ย. คาด +10.5% YoY ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด 3.25 แสนคน ตัวเลข PPI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.6% MoM และ +8.7% YoY และถ้อยแถลงของ Fed Barkin

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข Loan growth ของจีนเดือน ก.ย. คาด +12.1% YoY ปริมาณเงิน M2 ของจีนเดือน ก.ย. คาด +8.1% YoY ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด -0.2% MoM ตัวเลข Import price ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.6% MoM และ +9.5% YoY และตัวเลข Michigan Consumer Sentiment prel Oct ของสหรัฐฯ คาด +1.4% MoM เป็น 73.8 จุด และถ้อยแถลงของ Fed Williams

- Advertisement -