บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Home Product Center (HMPRO)

กำไร 4Q66 อ่อนตัว

  • Action TRADING (Downgrade)
  • TP upside (downside) +11.1%
  • Close Jan 25, 2024 Price (THB) 12.30
  • 12M Target (THB) 12.00
  • Previous Target (THB) 16.60

กำไร 4Q66 ไม่โดดเด่น

เราคาดกำไร 4066 ที่ 1.57 พันล้านบาท (+2.4% QoQ และ -5.1% YoY) ดีขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลแต่ปรับตัวลง YoY ถูกกดดันจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้คาดรายได้อยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านบาท (+2.9% QoQ, -1.5% YoY) YoY ถูกกดดันจาก SSSG ที่ติดลบมากขึ้นของโฮมโปรในไทย -8.0% YoY, โฮมโปรในมาเลเซีย -3.0% YoY และ เมก้าโฮม -8.0% YoY ขณะที่ยอดขายจากสาขาใหม่ที่มีการเปิดไม่สามารถชดเชยกับ SSSG ที่ติดลบได้ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 26.5% ปรับตัวดีขึ้นจาก 26.1%ใน 4Q65 จากสัดส่วนการขายสินค้า Private Brand ของเมก้าโฮมเพิ่มขึ้น ส่วน SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเป็น 21.7% จาก 20.5% เป็นผลของค่าใช้จ่ายการเปิดสาขาใหม่ และการจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น

ปรับประมาณการกำไรปี 2566 – 2568 เพื่อสะท้อน SSSG ที่อ่อนแอ

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-2568 ลง 4.4%, 9.0% และ 9.4% ตามลำดับ เป็น 6.34 พันล้านบาท, 6.87 พันล้านบาท และ 7.39 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2566 เราปรับลด SSSG ลงเป็น 1% ผลจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ ส่วนในปี 2567 เรามองว่า SSSG ยังฟื้นตัวช้าสะท้อนผ่านในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือน ม.ค. SSSG ยังติดลบในระดับ 5-7% แม้จะมีมาตรการกระตุ้นอย่างโครงการ Easy E-Receipt ดังนั้นจึงปรับลด SSSG 1% จากเดิม 3% และ SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเป็น 20.6% จาก 20.0% เป็นผลของยอดขายที่ลดลง

ระยะสั้นขาด Catalyst ใหม่ … แนะนำ “TRADING”

เรามีการปรับลด Terminal Growth ลงจาก 2.5% เป็น 2.0% เพื่อสะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 12.00 บาท และปรับลดคำแนะนำลงเป็น “TRADING” จาก “ซื้อ” เนื่องจากในระยะสั้นจะถูกกดดันจาก 1) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q66 ที่อ่อนแอกว่ากลุ่มค้าปลีกตัวอื่นที่เติบโตทั้ง QoQ และ YoY 2) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 ยังมีความเสี่ยงที่จะยังชะลอตัว YoY ต่อเนื่องสะท้อนผ่าน SSSG ครึ่งเดือนแรกของ ม.ค. ที่ยังฟื้นตัวช้า ดังนั้น เราจึงมองว่าหากจะลงทุนในกลุ่มค้าปลีกแนะนำเปลี่ยนไปลงทุนในกลุ่ม Consumer อย่าง CPALL และ CPAXT ที่แนวโน้มผลประกอบการเติบโตโดดเด่น

- Advertisement -