บล.คันทรี่ กรุ๊ป :
คาดกำไรก่อนตั้งสำรองผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q21
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q21 ของ BBL จะอยู่ที่ 6.44 พันล้านบาท (+60%YoY, +1.3%QoQ) จากการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะเดียวกันคาดว่ากำไรก่อนการตั้งสำรองลดลง 22%QoQ (+35%YoY) จากการลดลงของรายได้มิใช่ดอกเบี้ย ตามการชะลอตัวเศรษฐกิจช่วงล็อกดาวน์
• คาดผลการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวต้ังแต่ 4Q21 เป็นต้นไป จากการขยายสินเชื่อองค์กร รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การต้ังสำรองในปีหน้าลดลง
• เราคงมุมมองเชิงบวกต่อผลดำเนินงานของธนาคารนับตั้งแต่ในปี 2022 เป็นต้นไป จากโอกาสเปิดประเทศมากขึ้นในปีหน้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 162 บาท (+5% จากก่อนหน้า) อิง PBV เป้าหมายที่ 0.66x AVG PBV ค่าเฉลี่ยซื้อขายช่วง 3 ปี คำแนะนำ เฉพาะพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกันเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ อีกทั้งยังมีอัตราเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 5% และมีมูลค่าที่ไม่แพง 0.5xPBV’22E
Earning Preview
คาดกำไรก่อนสำรอง 3Q21E เป็นระดับต่ำสุด
- คาดกำไรสุทธิ 3Q21 ท่ี 6.44 พันล้านบาท (+60%YoY, +1.3%QoQ) ผลจากการตั้งสำรองท่ีลดลงมาท่ี 5.46 พันล้านบาท (-4%YoY, -44%QoQ)
- ขณะเดียวกัน คาดกำไรก่อนตั้งสำรองท่ี 1.36 หมื่นล้านบาท (+35%YoY, -22%QoQ) การเติบโต YoY ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม –ขณะท่ีการลดลง QoQ เป็นผลจากรายได้ท่ีมิใช่ดอกเบี้ยท่ีลดลง ตามการชะลอตัวเศรษฐกิจช่วงล็อกดาวน์
- เราคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยท่ี 2.01 หมื่นล้านบาท (+1.4%YoY, +0.5%QoQ) จากคาดการณ์การเติบโตของสินเช่ือท่ี +2.9%YoY และ +0.7%QoQ
Revenue Breakdown
รายได้ของธนาคารมาจาก:
(1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 65% ของรายได้รวมของธนาคารในปี 2020 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิถือเป็นรายได้หลัก หากการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารและ NIM สูง รายได้น้ีจะเติบโตสูงไปด้วย
(2) รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 21% ของรายได้รวมในปี 2020 โดยรายได้จากส่วนนี้ประกอบด้วย รายได้ค่าธรรมเนียมในการจัดการสินทรัพย์ และค่าธรรมเนียมวาณิชธนกิจ
(3) รายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ 14% ของรายได้รวมในปี 2020 โดยรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการลงทุนการซื้อขาย และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ