รอติดตามประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.16% ตอบรับเชิงบวกต่อเงินเฟือสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงและสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.8% ปิดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ได้แรงหนุนจากอุปสงค์มีแนวโน้มดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Market Outlook

วันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกและนำเข้าประจำเดือน ธ.ค.พบว่าขยายตัว 4.7%YoY , -3%YoY ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 6.4%YoY, 7.4%YoY แต่เกินดุลการค้าที่ 973 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ขาดดุล 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากหักสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย จะขยายตัวเพียง 2.1%YoY กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับหลายๆประเทศในเอเชียท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นตามการลดลงของเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์เป็นอุปสรรคทางการค้าที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้สินค้าเกษตรที่ขยายตัวและมีผลกับตลาดหุ้นได้แก่ อาหารสัตว์เลียง (+9%YoY) ยางพารา (+13%YoY) ส่วนสินค้าหดตัว ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-13%YoY) ด้านสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวและมีผลกับตลาดหุ้นได้แก่รถยนต์ อุปกรณ์ +4%YoY เครื่องคอมพิวเตอร์ (+2.5%YoY) ประเมินหุ้นรับผลเชิงบวกได้แก่ (ITC TU) และ (AH SAT STANLY)

ส่วนสัปดาห์นี้ปัจจัยติดตาม ได้แก่ (1) วันจันทร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและตำแหน่งเปิดรับสมัครงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 114 และ 8.7 ล้านตำแหน่ง (2) การวันพุธ จ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.4 แสนตำแหน่ง (3) ประชุม FED ที่จะทราบผลทางการช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย ข้อมูลจาก CME FED Watch ระบุว่าให้น้ำหนักราว 97% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าถ้อยแถลงและแนวโน้มดอกเบี้ยระยะถัดไปมีความสำคัญมากกว่า ซึ่งเชื่อว่าอาจเห็นส่งสัญญาณในเชิงเข้มงวดต่อการดำเนินนโยบายตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่งในหลายๆมิติไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้าน ภาคผลิต และอัตราการว่างงานที่ยังต่ำ

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1350 – 1385 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังคงมุมมอง ณ ระดับดัชนีปัจจุบันน่าสนใจสำหรับลงทุนระยะกลางขึ้นไป จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำ อุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) สื่อสาร (ADVANC) ส่วนเชิง Trading ระยะสัปดาห์เลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ BRT

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)

ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรของ PTTEP ในไตรมาส 4/23 และปี 2024 ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ย ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YoY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFD EIA ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะยังยืนในกรอบสูง ช่วงไตรมาส 4/2 ถึงปี 2024 จากสภาวะอุปทานที่ดึงตัวหลัง OPEC+ ลดการผลิตลง

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 74.00 บาท)

มองว่าผลประกอบการงวด FY1Q24 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิมากกว่า 5,000 ล้านบาท หลังจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 12% QoQ,+26%YoY มาอยู่ที่ระดับ 28.9 ล้านคน นอกจากนี้ AOT ยังมีปัจจัยบวกเรื่องการ ท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ซึ่งภาครัฐฯ มีการประเมินนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 34 -35 ล้านคน จากระดับ 28 ล้านคนในปี 23

- Advertisement -