รอบด้านตลาดหุ้น: Make a U-Turn…

สรุปภาพตลาดวานนี้

ดัชนีย่อต่อลงมาปลายสัปดาห์ที่แล้ว กดดันโดยแรงขายหุ้นคอมเมิร์ช CPALL HMPRO BJC ธนาคาร BBL SCB KBANK KTB และหุ้นขนาดกลาง-เล็กมีแรงขายออกมา เช่น JKN OTO GREEN MASTER MCA SANKO แต่ก็มีหุ้นที่บวกได้ดีกว่าตลาด อาทิ CCET PRINC CV CSS ZAA CHASE CHO SK SMART

ภาพตลาดและแนวโน้ม

สัปดาห์ที่ผ่านมา SET เกือบหลุด 1,370 จุด เราจึงปรับโหมด Defensive วนกลับมาที่กลุ่มโรงแรมท่องเที่ยว (MINT ERW AAV) สื่อสาร (ADVANC TRUE INTUCH) พลังงาน ส่วนกลุ่มกดดันตลาด คือ ธนาคาร การเงิน (BBL KTB KBANK) ค้าปลีก (CRC HMPRO) ขนส่ง (BTS BEM)

แต่สัปดาห์นี้ เราคาดหวังกับ ปัจจัยต่างประเทศที่จะช่วยยับยั้งโมเมนตั้มขาลงหุ้นไทย โดยยังคงเป็นเรื่องของการดำเนินมาตรการตามที่ ทางการจีนได้ประกาศไว้ เช่น การอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านหยวนเข้าตลาดหุ้นจีน, ปรับลดอัตราเงินกันสำรอง (RRR) ลง 0.5% วันที่ 5 กพ. สร้างเม็ดเงินหมุนเวียน 1 ล้านล้านหยวน… เพราะเรามองว่า ตลาดหุ้นโลกรอบนี้เป็นการเล่นตามโมเมนตั้ม ตลาดไหนเป็นขาขึ้น ก็จะยังคง Run trend ขึ้น ตรงข้ามตลาดหุ้นไหนเป็นขาลง เช่น ไทย จีน ฮ่องกง หากยังไม่มีอะไรมาหยุดยั้งโมเมนตั้มขาลง คาดว่าจะยังเล่นลงต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องฝาก
ความหวังไว้กับมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้น และ เศรษฐกิจ จากจีน

ส่วนธีมลงทุน แนะเลือกหุ้นตาม Earnings preview และ Earnings result ส่วนการเก็บ/ซื้อหุ้นคืนรอดัก ผลตอบแทนเดือน กพ.ที่คาดว่าจะดีกว่าเดือน มค.ตามสถิติเน้นไปที่ ผลตอบแทนเงินปันผลและ ราคาหุ้นในเชิงสถิติเดือน กพ. จะเป็นเดือนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกโดยเฉลี่ย-มีโอกาสถึง 70-80% จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี

หุ้นแนะนำวันนี้ : CBG ICHI

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

  • งบที่จะทยอยประกาศ และคาดการณ์กำไร
  • การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ 30-31 ม.ค.
  • การประชุมโอเปกพลัส ต้นเดือน ก.พ.
  • ติดตามต่อ ทิศทางนโยบายของจีน
  • คดีการเมือง: ถ้าไม่มีการจุดม็อบ คาดไม่มีผลกระทบต่อหุ้นไทย

Global Investing Brief : INTC ปรับฐาน หลังเผยงบต่ำคาด ลุ้น MSFT งบแกร่ง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดผสม โดยดัชนี DJIA +0.2% S&P 500 -0.1% และ Nasdaq -0.4% กดดันโดย Intel (INTC.US) -11.9% ปิดที่ $43.65 หลังเผยงบ 4Q66 น้อยกว่าตลาดคาด โดยรายได้โต 9.7%YoY แตะ $15.4bn เนื่องจากยอดสั่งชิปของบริษัทลดลง ขณะที่สหรัฐฯ เผยดัชนี PCE เดือน ธ.ค. 66 ปรับขึ้น 2.9%YoY ชะลอลงจาก 3.2%YoY ในเดือน พ.ย. 66 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3%YoY บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีทิศทางที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ Fed เริ่มใช้นโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น
  • Alphabet (GOOGL.US) ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Google Chrome ด้วยการใช้ AI ในการช่วยสร้างภาพ, เขียนงาน และจัดแท็บอัตโนมัติ แบบเดียวกับที่ Microsoft Edge ใส่ Copilot เข้ามา โดยเรามองฟีเจอร์ที่เพิ่มใหม่นี้จะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น เป็นปัจจัยหนุนยอดผู้ใช้งาน และอาจช่วยหนุนรายได้ของ GOOGL ให้โตเฉลี่ยราว 11% ต่อปี ในช่วง 4 ปีข้างหน้า (Bloomberg cons.)

หุ้นแนะนำ : Hold : MSFT.US

  • แนะถือ MSFT ต่อ หลัง คาดงบไตรมาส 4 ที่จะเผย ในวันที่ 30 ม.ค. 67 มีแนวโน้มโตแกร่ง โดยรายได้ธุรกิจคลาวด์อาจโต 18%YoY และรายได้รวมอาจมี upside จาก Activision Blizzard ราว $1.6bn (ราว 0.5% ของรายได้รวม) ที่ปิดดีลซื้อกิจการไปเมื่อ 13 ต.ค. 66

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • ดัชนี Hang Seng ปิดลบ 1.6% ในวันศุกร์ โดย Sunny Optical (2382.HK) -5.8% และ BYD (1211.HK) -4.1% ขณะที่จีนเผยอัตราว่างงานเดือน ธ.ค. 66 อยู่ที่ 14.9% สำหรับผู้ที่มีอายุ 16-24 ปี หลังบัณฑิตที่จบใหม่มีจำนวนมากขึ้น และจบจากสาขาที่ตลาดต้องการน้อย อย่างไรก็ดีเรามองว่าอัตราการว่างงานมีแนวโน้มลดลงปีนี้ หลังคาดว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนมากขึ้น เช่น การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา เป็นต้น
  • China Mobile (941.HK) เผยยอดผู้ใช้งานสัญญาณโทรศัพท์ 5G เดือน ธ.ค. 66 เพิ่มขึ้นราว 15 ล้านราย แตะ 794 ล้านราย หนุนจากการพัฒนาระบบเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ให้ดีมากขึ้น อีกทั้งเรามองว่าหุ้นอาจได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของจีนที่จำเป็นต้องมีการลงทุนในเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ระยะยาว

หุ้นแนะนำ : Hold : 9999.HK

  • คาดหุ้นกลุ่มเกมจีนจะมี sentiment ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังทางการจีนได้อนุมัติเกมใหม่ 115 เกม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเรายังแนะถือ NetEase (9999.HK) หลังมองว่ายังมีมูลค่าน่าสนใจ P/E 12M อยู่ที่เพียง 15 เท่า

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี VN ปิดลบ 0.5% โดย Bank for Investment and Development (BID.VN) -1.1% ขณะที่เวียดนามตั้งเป้าตัวเลขเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ในช่วงปี 67-68 จะเพิ่มขึ้น 6%YoY และ 12%YoY ตามลำดับ หนุนจากการเก็บค่าเช่าพื้นนิคมอุตสาหกรรมที่ลง 30% ซึ่งเรามองว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และหนุนเศรษฐกิจเวียดนามในระยะยาว
  • Hoa Phat Group (HPG.VN) ที่มีน้ำหนักราว 8% ในดัชนี VN 30 ดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ปรับขึ้นราคาขายเหล็กลวดราว VND200 สู่ VND14,460 ต่อกิโลกรัม เราจึงมองเป็น upside ต่อกำไรของ HPG ในช่วง 1Q67 และอาจหนุนภาพรวมกำไรของดัชนี VN 30 ให้โตราว 35%YoY ในปี 67 อิงจาก Bloomberg cons.

หุ้นแนะนำ : Sell : ACV.VN

  • เราแนะล็อกกำไร ACV หลังหุ้นปรับขึ้นมาแล้วราว 9% จากที่เราแนะนำ โดยมองว่าหุ้นรับรู้ประเด็นนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีนี้ไประดับหนึ่งแล้ว และเริ่มเข้าสู่ Overbought ในเชิงเทคนิค

Global Weekly Update – แนะซื้อ MSFT ลุ้นงบดี SBUX มูลค่าน่าสน l คาดหุ้นฮ่องกงฟื้นต่อ รับกองทุนพยุงหุ้นจีน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อ 0.7-1.1% ขานรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแกร่ง หลัง GDP 4Q66 โต 3.1%YoY มากกว่าตลาดคาด ส่งผลให้ GDP ปี 66 โต 2.5%YoY ด้าน Netflix (NFLX) +18.1% หลังยอดสมาชิก 4Q66 โต 13.1 ล้านราย มากกว่าตลาดคาดที่ 8.9 ล้านราย อีกทั้งบริษัทคาดอัตรากำไรจากการดำเนินงานปี 67 จะเพิ่มขึ้นสู่ 24% จาก 20.6% ในปี 66 หนุนจากการปรับขึ้นค่าสมาชิกราว 20% ในบางตลาดและสมาชิกแบบมีโฆษณาที่อาจโตราว 8%YoY ขณะที่ Tesla (TSLA) -13.6% หลังเผยรายได้ 4Q66 โต 4%YoY แตะ $25.2bn ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และบริษัทเผยยอดขายปี 67 อาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 66 จากการแข่งขันในตลาด EV ที่สูงขึ้นจากแบรนด์จีน เราจึงแนะนำระมัดระวังการลงทุนหุ้น TSLA ในระยะสั้น
  • สัปดาห์นี้ เราคาดว่าหุ้นสหรัฐฯ อาจพักความร้อนแรง ลุ้นผลประชุม Fed ในวันที่ 31 ม.ค. 67 ซึ่งปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ย แต่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. นี้เลยหรือไม่ หลังตลาดลดโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ลงเหลือราว 48% ในปัจจุบัน จากระดับมากกว่า 60% เราจึงมองเป็นโอกาสในการล็อกกำไรหุ้นที่เราเคยแนะเก็งงบและไปถูกทางก่อนหน้านี้ ได้แก่ Netflix (NFLX) และ Intuitive Surgical (ISRG)
  • ขณะที่หุ้นเทคฯ ใหญ่ ได้แก่ Microsoft (MSFT) Alphabet (GOOGL) จะเผยงบ 4Q66 ในวันที่ 30 ม.ค. 67 ส่วน Amazon (AMZN) Meta Platforms (META) และ Apple (AAPL) จะเผยวันที่ 1 ก.พ. โดยเราชอบ MSFT มากสุดในกลุ่มนี้ เนื่องจากคาดว่ารายได้ธุรกิจคลาวด์อาจมีแนวโน้มโตเด่น 18%YoY และรายได้รวมอาจมี upside จาก Activision Blizzard ราว $1.6bn (ราว 0.5% ของรายได้รวม) ที่ปิดดีลซื้อกิจการไปเมื่อ 13 ต.ค. 66

ข่าวร้อน น่าติดตาม

  • Procter & Gamble (PG) บวก 5.8% ในสัปดาห์ก่อน แม้เผยรายได้เดือน ต.ค.-ธ.ค. 66 (F2Q67) โต 3%YoY ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ 6%YoY อย่างไรก็ดีบริษัทปรับคาดการณ์กำไรปีบัญชี 67 (ก.ค.66 – มิ.ย.67) อาจโต 8-9%YoY จาก 6-9%YoY หนุนจากยอดขายในสหรัฐฯ ยุโรป ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ร่วมด้วยการปรับขึ้นราคาสินค้า

หุ้นเด่น มีประเด็น Ferrari (RACE.US)

  • Ferrari จะเผยงบ 4Q66 ในวันที่ 1 ก.พ. 67 โดยรายได้อาจโต 17%YoY ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานอาจอยู่ที่ 25% จาก 27% ใน 3Q66 จากการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาของธุรกิจ F1 (สัดส่วนราว 9%) ที่มักจะลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ของปี
  • ขณะที่ในปี 67 บริษัทเผยมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้น ทั้งราคารถและราคาชิ้นส่วน ซึ่งอาจเป็น upside ต่อกำไรราว 2% อิงจาก Bloomberg cons. ทั้งนี้เรายังมองบวกต่อแผน EV “e-building” ที่จะเริ่มสร้างโรงงานในอิตาลี ในเดือน มิ.ย. 67 ที่จะทำให้การผันตัวสู่ EV ของบริษัทมีความชัดเจนขึ้นและอาจเปิดตัวรถ EV รุ่นแรกในช่วง 4Q68 ตามเป้า ด้านมูลค่าหุ้นปรับลงมาใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปี (39 เท่า) โดย P/E ปี 67 อยู่ที่ 41.2 เท่า จึงมองว่าน่าสนใจในการทยอยลงทุน โดยอาจรอจังหวะบริเวณโซนรับในหน้า 5

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Hang Seng ฟื้นตัวเด่น 4.2% นำโดย NetEase (9999) +13.3% Ping An (2318) +11.2% และ Alibaba (9988) +8.2% หลังธนาคารกลางจีน (PBoC) เตรียมปรับลดอัตราสำรองธนาคาร (RRR) ลง 0.5% ในวันที่ 5 ก.พ. 67 นับเป็นการปรับลดด้วยอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 64 เพื่อพยุงเศรษฐกิจจีนที่เปราะบาง รวมทั้งรัฐบาลมีแผนใช้งบประมาณกว่า $278bn ในการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น เพื่อช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นจีน
  • ขณะที่จีนคาดการณ์ยอดการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะเดินทางไปเยี่ยมญาติและท่องเที่ยวมีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9 พันล้านครั้ง หลังชาวจีนสามารถฉลองเทศกาลตรุษจีนได้อย่างเสรีมากขึ้นโดยไม่ต้องถูกจำกัดเช่นเดียวกับช่วงโควิดเป็นครั้งแรก เราจึงมองบวกต่อหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เช่น Yum China (9987) และ Haidilao (6862)
  • เราคาดว่าหุ้นฮ่องกงจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อในสัปดาห์นี้ หลังตลาดจับตาดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ม.ค. 67 ที่จะเผยในวันที่ 31 ม.ค. 67 มีแนวโน้มอยู่ที่ระดับ 49.2 จุด แม้จะยังอยู่ในโซนหดตัว แต่ดีขึ้นจากเดือน ธ.ค. 66 ที่ระดับ 49 จุด ซึ่งเรามองเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
  • อีกทั้งเรามองว่าหุ้นเกม NetEase (9999) และ Tencent (700) จะได้ sentiment บวกจากการอนุมัติเกมใหม่ถึง 115 เกม เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 ซึ่งนับเป็นการอนุมัติเกมใหม่ที่มากสุดของจีน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการผ่อนคลายในอุตสาหกรรมเกม
- Advertisement -