บล.ฟิลลิป:
OR กำไร 4Q66 ลดลงจากสต๊อกน้ำมัน
ซื้อ TP’67: 25.00
คาดกำไร 4Q66 ลดลงแรง 87%q-q เนื่องจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรปรับลดลงมาอยู่ 0.7-0.8 บาท/ลิตร ที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ตามการลดลงของราคาน้ำมันในช่วง 4Q66 อย่างไรก็ตาม มุมมองกำไร 1Q67 คาดจะฟื้นตัวกลับมาจากผลกระทบสต๊อกน้ำมันจะน้อยลง และคชจ.เกี่ยวกับการขายที่ลดลง ทำให้มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเป็นจังหวะให้เข้าสะสม คงคำแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 4Q66E | 3Q66 | 4Q65 | % y-y | % q-q | 2566E | 2565 | % y-y |
กำไร | 658 | 5,170 | -744 | N.A. | -87.3 | 11,559 | 10,370 | +11.5 |
EPS | 0.05 | 0.43 | -0.06 | N.A. | -87.3 | 0.96 | 0.86 | +11.5 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาดงบ 4Q ลดลงจากขาดทุนสต๊อก : คาดกำไร 4Q66 อ่อนตัวลง 87%q-q โดยหลักเนื่องจากมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงใน 4Q66 ส่งผลให้กำไรขั้นต้นต่อลิตรปรับตัวลงมาที่ระดับ 0.7-0.8 บาท/ลิตร ด้านยอดขายน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% q-q เป็น 6,900 ล้านลิตร เนื่องจากเป็นช่วง High Season ที่มีการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับธุรกิจ Lifestyle ที่ได้รับอานิสงค์จากการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยคาดยอดขายกาแฟ Amazon โตกว่า 3 ล้านแก้ว เป็น 95 ล้านแก้ว ขณะที่ธุรกิจ Global คาดจะปรับตัวลดลง โดยหลักเนื่องจากยอดขายที่ลดลงในฟิลิปปินส์ โดยรวมแม้ปริมาณข้ายเพิ่มขึ้นแต่คาดกำไรจะลดลง เนื่องจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ทางฝ่ายจงมองวาระยะสนราคาหุนจะถูกกระทบพอสมควร เนื่องจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่ลดลงมากกว่าระดับที่คาดการณ์ก่อนหน้าที่ 0.9 บาท/ลิตร มาอยู่ 0.7-0.8 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม มุมมองกำไร 1Q67 คาดจะฟื้นตัวกลับมาจากผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันจะน้อยลง และคชจ.เกี่ยวกับการขายที่ลดลง ทำให้มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเป็นจังหวะให้เข้าสะสม จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”