Trading Range: ภายในสดใส ภายนอกยังกังวล 1620 – 1640
Picks of the day
AAV BUY
- อาจเห็นมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น: หลังจากเริ่มกลับมาบิน 3 ก.ย. โดยให้บินได้ 75% ของที่นั่ง และในการประชุม ศบค.วันที่ 14 ต.ค. อาจมีการให้บินได้ 100% ของที่นั่ง จะส่งผลบวกต่อบริษัท
- นายกฯแถลงจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 1 พ.ย. นี้: ปกติ 4Q จะเป็น high season ของการท่องเที่ยวในประเทศ จึงเพิ่มเส้นทางบินอีก 9 เส้นทาง เป็น 20 เส้นทาง และนายกฯแถลงจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1พ.ย. ยิ่งเป็นผลบวกต่อ AAV ที่จะเปิดบินระหว่างประเทศ
BCP BUY
- คาด 3Q64 แนวโน้มไม่แย่นัก: คาดการดำเนินงาน 3Q64 กลุ่มโรงกลั่นดีขึ้นจาก GRM ที่ดีขึ้นตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ และการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่ดีขึ้น อีกทั้งคาดส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจะดีขึ้น (OKEA) จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และคาดจะมีกำไรพิเศษจากการขาย UBE เข้ามา
- ได้ผลบวกจากการท่องเที่ยว: ธุรกิจปั๊มน้ำมันคาดจะได้ส่วนช่วยจากการกลับมาเดินทางมากขึ้น ทั้งการดำเนินชีวิตรวมถึงการท่องเที่ยวมากขึ้น อีกทั้งยังหนุนกลุ่ม non-oil ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นวันนี้
- ภายในสดใส ภายนอกยังกังวล: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างไม่ไปไหนไกลระหว่าง 1620 – 1640 จุด ในภาพรวมทางฝ่ายมองว่านักลงทนุจะเริ่มการเวียนกลุ่มเข้าลงทุนใน Reopening Stocks มากขึ้น หลังวานนี้นายกฯแถลงเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ขณะท่ีปัจจัยภายนอกอย่างความกังวลการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐ ยังเป็นสิ่งที่กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงนี้ โดยผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดติดที่ระดับ 1.625% โดยสรุป จะเห็นได้ว่าแม้ตลาดจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงบวกภายใน แต่ปัจจัยเชิงลบภายนอกก็ยังคงปกคลุมอยู่เช่นกัน อีกทั้งวันพรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการหนึ่งวัน นักลงทุนบางส่วนจึงอาจขายลดสัดส่วนการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ก่อนที่จะประเมินกลยุทธ์การลงทุนในระยะต่อไป
- นายกฯ แถลง 1 พ.ย. น้ี เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ: คืนวานนี้นายกฯ ประกาศหนึ่งก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวที่สำคัญโดย 1 พ.ย. น้ี ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางในประเทศไทยได้อย่างอิสระ โดยตัวอย่างกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ ได้แก่ จีน สหรัฐ อังกฤษ สิงคโปร์ และเยอรมนี เป็นต้น โดยจะค่อยๆพิจารณาเพิ่มรายชื่อกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำต่อไป นอกจากนี้ 1 ธ.ค. นายกฯ จะพิจารณาให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และสามารถเปิดสถานบันเทิงได้ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
- Merck ยื่นขอ FDA สหรัฐเพื่อใช้ยาเม็ดต้าน COVID-19 เป็นการฉุกเฉิน: หลังจากที่บริษัท Merck เปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกเฟส 3 ของยาเม็ดต้าน COVID-19 “โมลนูพิราเวียร์” (Molnupiravir) ซึ่งมีผลการทดลองที่น่าประทับใจ โดยสามารถลดอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยรายใหม่ที่ติดเชื้อลงได้ครึ่งหนึ่ง ล่าสุด Merck กำลังยื่น FDA เพื่อขอใช้เป็นการฉุกเฉิน ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะผลิตให้สหรัฐใช้ภายในสิ้นปีนี้ราว 1.7 ล้านเม็ด ทางฝ่ายมองว่าประเด็นนี้ สะทอ้นให้เห็นถึงพัฒนาการเชิงบวกในการต่อสู้กับไวรัส COVID-19 และนอกจากบริษัท Merck แล้ว ยังมีบริษัทอื่นๆที่กำลังผลิตยาเม็ดต้าน COVID-19 เช่น AstraZeneca และ Pfizer จึงน่าติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด
- ปัจจัยสำคัญน่าติดตามในสัปดาห์นี้: 1) ผลการประชุมร่วม World Bank Group และ IMF ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง 11-17 ต.ค. 2) วันพุธติดตามตัวเลข CPI และ Core CPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 0.3% m-m ทั้งคู่ 3) วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลข PPI และ Core PPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 0.6% m-m และ 0.5% m-m ตามลำดับ