บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
เราคาดกำไรสุทธิของธนาคารใน 3Q21 ที่ 9.06 พันล้านบาท (+36%YoY, +1.9%QoQ) โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และการตั้งสำรองที่ลดลง
• ในขณะเดียวกันกำไรก่อนต้ังสำรองของธนาคารจะลดลงเล็กน้อย 1.8%QoQ (+16%YoY) จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอ จากกิจกรรมทางเศรษฐกจิที่ลดลงระหว่างการล็อกดาวน์
• เราคาดกำไรของธนาคารมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ 4Q21 เป็นต้นไป ด้วยแรงหนุนจากการขยาย สินเช่ือ SME หลังจากการคลายล็อกดาวน์
• ธนาคารจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปิดประเทศในปี 2022 เนื่องจากมีสินเช่ือ SME และสินเชื่อท่ีเกี่ยวกับการ ท่องเท่ียวสูง นอกจากนี้สินเช่ือดิจิทัลภายใต้ KBTG จะช่วยเร่งการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยตามการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจ
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับมูลเหมาะสมเพิ่มขึ้น 3% เป็น 174 บาท อิง PBV’22E เป้าหมายท่ี 0.85 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยซื้อขายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของธนาคาร คำแนะนำสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งจากการปล่อยสินเชื่อ SME ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแห่งประเทศไทย
คาดกำไรสุทธิ 3Q21 จะโต YoY และ QoQ
- เราคาดกำไร 3Q21 ที่ 9.06 พันล้านบาท (+36%YoY+ 1.9%QoQ) ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิ (+12%YoY,+3%QoQ) และการตั้งสำรองที่ลดลงเหลือ 9.73 พันล้านบาท (-10%YoY, – 10%QoQ)
- เราคาดการณ์กำไรก่อนตั้งสำรองที่ 2.34 หมื่นล้านบาท (+16%YoY, -1.8%QoQ) โดยการขยายตัว YoY เกิดจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมอันเนื่องมาจากฐานที่ต่ำในปี ก่อน ในขณะเดียวกันการลดลงของ QoQ เกิดจากการลดลงของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ได้รับผลกระทบจากการการล็อกดาวน์
- เราคาดรายรับดอกเบี้ยสุทธิจะเติบโตสู่ 3.05 หมื่นล้านบาท (+12%YoY, +3%QoQ) ด้วยการเติบโตของสินเชื่อที่ +12.7%YoY และ +2%QoQ
Revenue Breakdown
รายได้ของบริษัทมาจาก 3 แหล่งหลักๆ คือ:
(1) รายได้ดอกเบี้ย คิดเป็น 71% ของรายได้รวมของบริษัทในปี 20 โดยรายได้ดอกเบี้ยเป็นรายได้หลัก และเชื่อมโยงอยู่กับเงินกู้และ NIM หากสินเชื่อเติบโตและ NIM สูงรายกลุ่มนี้ก็จะสูงเช่นกัน
(2) รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ คิดเป็น 21% ของรายได้รวมของบริษัทในปี 20 โดยรายได้ส่วนนี้ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมการจัดการสินทรัพย์ และรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกัน
(3) รายได้อื่นคิดเป็น 8% ของรายได้รวมของบริษัทในปี 20