บล.ฟิลลิป:

นอร์ทอีส รับเบอร์ – NER Red Sea กลับเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจต้นน้ำ

Key Point

คาด 4Q66 ฟื้นตัว y-y และ q-q จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและปี 67 จะเป็นปีที่ดีของ NER จากมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม และราคายางที่จะปรับตัวได้สูงขึ้นกว่าปีก่อน ราคาเฉลี่ยปีก่อนที่ 47 บาท/กก. ซึ่งปัจจุบันราคายางอยู่ที่ 70 บาท/กก. ผลจากจากความกังวลในเรื่องของความขัดแย้งในปีนี้จะกลับมาเป็นประโยชน์สำหรับ NER ต่อด้านราคาและปริมาณขาย

4Q66 คาดกำไรสุทธิเติบโต y-y และ q-q

ผู้บริหารแจ้งปี 66 ยังคงทำปริมาณขายได้ตามเป้าที่ประมาณ 5 แสนตัน ซึ่งจะทำให้ 4Q66 มีปริมาณขายราว 1.286 แสนตัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่สูงขึ้นเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คาดรายได้ 6,560 ลบ. -7.4%y-y +16.6%q-q แต่ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้น y-y และ q-q ที่ 11.6% ส่งผลให้คาดว่าจะทำกำไรสุทธิได้ดีขึ้นที่ 396 ลบ. +7.5%y-y +26.7%q-q คาดทั้งปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,480 ลบ. -15.4%y-y ผลจากราคายางที่ปรับตัวลงในปี 66 เป็นหลัก

เป้าปี 67 เติบโต y-y

ปี 67 ตั้งเป้าปริมาณขาย 5.1 แสนตัน ซึ่งปัจจุบันขายล่วงหน้าแล้วไปกว่า 2 แสนตัน ประมาณการยอดูขาย 2.7 หมื่นลบ. +15%y-y จากมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม และราคายางที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน ในปี 66 ราคาเฉลี่ยยาง 47 บาท/กก. แต่ปัจจุบันราคายางปรับตัวขึ้นเป็น 70 บาท/กก. ด้วยความกังวลจากความขัดแย้งใน red sea และซัพพลายที่คาดว่าจะลดลงในปีนี้จากปัญหาภัยแล้ง เรามองว่าปัจจุบันเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ทำให้ดีมานด์ยางยังไม่กลับมาอย่างเต็มที่ หากเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้จะทำให้ความต้องการยางเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในอนาคต

ธุรกิจต้นน้ำที่มีฐานลูกค้าส่งสินค้าไปยังยุโรปจะได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง Red sea

ความขัดแย้งใน red sea ทำให้ผู้ขายสินค้าไปยังยุโรปจำเป็นต้องเริ่มกักตุนวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้นเพื่อเตรียมรับมือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ปัจจุบันลูกค้ามีผลกระทบจากใช้ระยะเวลาการเดินเรือที่นานขึ้น ซึ่งจีนส่งออกรถ EV มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก และตลาดที่สำคัญคีอยุโรปที่ต้องการผลักดันเรื่องการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจีนเป็นลูกค้าหลักของ NER มีสัดส่วนกว่า 65% ของรายได้ (รวมถึงบริษัทที่ขายในไทย) ที่ผ่านมาลูกค้าจีนจะเก็บสต๊อกยางราว 1-2 เดือน แต่ปัจจุบันมีการเก็บสต๊อกยางเพิ่มถึง 3-4 เดือน ทำให้ธุรกิจต้นน้ำอย่าง NER ที่มีลูกค้าที่ส่งสินค้าไปยังยุโรปได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ และหากมองในมุมของ NER เองถือว่ากระทบค่อนข้างน้อย เนื่องจากเส้นทางการจัดส่งสินค้ายังอยู่ในเอเชียเป็นหลักอย่าง จีน ไทย อินเดียและญี่ปุ่น

ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 6.15 บาท/หุ้น อิง P/E 6.5 เท่า

ทางฝ่ายฯประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ปรับเพิ่ม +1.0S.D. เป็น 6.5 เท่า โดยปรับคาดการณ์รายได้เพิ่มตามประมาณการของผู้บริหารและราคายางในปัจจุบันที่ปรับตัวขึ้น ปรับกำไรปี 67 เพิ่มขึ้นอีก 3.4% ปรับราคาพื้นฐานปี 67 เพิ่มที่ 6.15 บาท คงคำแนะนำ”ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
  2. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
  3. ความเสียงจากการใช้สินค้าทดแทน
- Advertisement -