ในนี้ Sideways จังเลยนะฮะ / 1,380-1,390
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET เช้าแกว่งแคบ บ่ายลุ้นยีน: โดยทางฝ่ายคาดดัชนี SET เผชิญแรงกดดันจาก 1) ดาวโจนส์ที่ปิดลบกว่า 100 จุด เมื่อคืนวันศุกร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเชิงบวก ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะใช้ดอกเบี้ยระดับสูงยาวนาน โดยข้อมูลสำคัญเชิ่งบวกเมื่อคืนวันศุกร์ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด 1.87 แสนตำแหน่ง สู่เดือนม.ค. ที่ระดับ 3.53 แสนตำแหน่ง, อัตราว่างงานต่ำกว่าคาด 3.8% สู่เดือน ม.ค. ที่ระดับ 3.7% รวมทั้งเฟดแอตแลนต้าเผยประมาณการ GDPNow ไตรมาส 1Q66 สหรัฐสูงขึ้นจากคาดครั้งก่อน 3% สู่ระดับ 4.2% นอกจากนี้แล้ว CME Fed Watchtool ยังเชื่อกว่า 58.0% ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน พ.ค. ดับฝันนักลงทุนที่ลุ้นให้เฟดลดอกเบี้ยครั้งแรกที่เดือน มี.ค. ไปสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ 2) ราคาน้ำมัน WTI ลดลงกว่า 2% สู่ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลรั่บประเด็นในข้อแรก และจะเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็น Big Cap ของไทย อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนบวกยังพอมี โดยยังหวังได้จาก 1) งบงวด 4Q66 และงบปี 66 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะสะท้อนภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว เป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้นทั้งในฝั่งสหรัฐ นำโดย Exxon Mobil มี EPS ดีกว่าคาด 2.20 สู่ระดับ 2.48, Chevron ดีกว่าคาด 3.20 สู่ 3.45, Toyota ดีกว่าคาด 1.66 สู่ 2.00 และหุ้นของตลาด CBOE ที่ดีกว่าคาด 2.04 สู่ 2.06 ส่วนในไทย สัปดาห์นี้ติดตามงบฯ ของ ADVANC ซึ่งเป็นงวดแรกหลังควบรวม 3BB, JASIF แม้ว่าจะมีต้นทุนต้องรับรู้บ้าง แต่แนวโน้มดีต่อ อาจช่วยพยุงดัชนี และ GPSC ซึ่งคาดได้ประโยชน์จากต้นทุนค่าก๊าซลดลง รวมทั้งแนวโน้มดีต่อจากค่า Ft ที่ทยอยปรับขึ้น 2) ทางฝ่ายมองกลุ่มจับจ่ายใช้สอยได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน และ 3) ลุ้นต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย หลังจากที่ 2 วันแรกของเดือน ก.พ.ซื้อสุทธิ 4.17 พันลบ. ทำให้มีความหวังว่าอาจกลับซื้อต่อหลังจากนี้
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว: AAV, AOT, BA, CENTEL, ERW, SPA 2) Spending ช่วงตรุษจีน: BJC, CPALL, CPE, CPAXT, TFG 3) ราคาก๊าซย่อตัว: EGCO, GPSC 3) เก็งหุ้นรับงบดี : ADVANC, INTUCH, WHA, WHAUP 4) Data Center: BBIK, INET, INSET, SYMC
ปัจจัยบวก
- IMF คาดแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปี 67 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.9% แรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และม.กระตุ้นฯ ด้านการคลังของจีน
- สำนักงานสถิติเกาหลีใต้ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 2.8% เดือนม.ค. มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.8% เดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนธ.ค. 2566 ที่พุ่งขึ้น 3.2%
- รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยตรุษจีน 8-16 ก.พ. นี้ จะสอดรับกับ ม.ฟรีวีซ่า นักท่องเที่ยวจีน ทำให้ค่าด นทท.จีนจะเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2 แสนราย คาดสร้างรายได้ 3.4 หมื่นลบ. ซึ่งจะช่วยกระตุ้น ศก.ไทย
- CtrlS ผู้ให้บริการ Hyper Scale ด้าน Data Center และ Cloud ในอินเดีย เช่าพื้นที่ลงทุนในเขต EEC ระยะเวลา 50 ปี มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ช่วยเสริมการจ้างงานกว่า 1 พันอัตรา
ปัจจัยลบ
- ธนาคาร NYCB เผยว่ากำลังประสบปัญหาขาดทุนจากธุรกิจสินเชื่ออสังหาฯ เชิงพาณิชย์จำนวนมาก จากปัญหาคนทำงานในออฟฟิศน้อยลงหลังโควิด-19 และภาคธุรกิจต่างประสบปัญหาต้นทุนกู้ยืมที่สูง
- สวิตเซอร์แลนด์คว่ำบาตรการนำเข้าเพชรจากรัสเซียเพื่อสอดคล้องกับม.คว่ำบาตรจากทาง EU ขณะที่พันธมิตรรัสเซียอย่างเกาหลีเหนือทดสอบ, Cruise Missile หลายลูกบริเวณนอกชายฝั่งตะวันตกช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจากการทดสอบขีปนาวุธ Pulhwasal ที่ผ่านมาเป็นแรงกดดันต่อปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีวงกว้างขึ้น
- กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนประกาศเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่าจะตอบโต้ล้างแค้นทางอากาศกับสหรัฐ-อังกฤษหลังจากถูกโจมตีกว่า 48 ครั้ง เป็นปัจจัยต่อความยืดเยื้อด้านปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ในตะวันออกกลาง
PICKS OF THE DAY
AAV BUY
- เป้าหมาย 2.40 / 2.50 แนวรับ 2.20
- คาด 4Q66 จะกลับมามีกำไรปกติ: หากดูกำไรสุทธิใน 4Q66 อาจจะลดลง y-y หลัก ๆ มาจากกำไร Fx ที่ลดลง แต่ถ้าดูการดำเนินงานปกติจะดีขึ้นมากจาก 4Q65 ที่ขาดทุนจากดำเนินงาน 135 ลบ. เป็นกำไร 64 ลบ. ตามผู้โดยสาร +26% เป็น 5.1 ล.คน และค่าตั๋วเฉลี่ย +23%
- ภาพทั้งปี 67 ได้ประโยชน์จากมาตรการฟรีวีซ่า: จากมาตรการฟรีวีซ่า นทท.จีนถาวรและ นทท.อินเดีย ซึ่ง นทท. มีการเติบโตจากปีก่อน โดยจีนมีแผนเพิ่มเทียบบินจาก 74 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 98 เที่ยวบิน จากทั้งหมด 11 เส้นทางบิน และอินเดียมีเปิดเส้นทางบินใหม่ 1 เส้นทาง แต่จะเป็นช่วง เม.ย. รวมเป็น 10 เส้นทางบิน ทำให้ภาพรวมทั้งปียังดีต่อเนื่อง โดยใน 1Q67 คาดการดำเนินงานปกติจะโตทั้ง q-q และ y-y ตามฤดูกาลที่ นทท. เดินทางมามากที่สุดและเทศกาลตรุษจีน ซึ่งไทยเป็นจุดหมายหลักของ นทท.จีน
GPSC BUY
- เป้าหมาย 52.00 / 54.00 แนวรับ 50.00
- Bond Yield หนุน: บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ 10 ปี ปรับตัวลง แม้เฟดจะคงดอกเบี้ย สะท้อนสัญญาณอาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. หรือครึ่งปีหลัง ทางฝ่ายมองจะทำให้หุ้นโรงไฟฟ้ากลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
- 1Q67 ค่าไฟขึ้น: ทางฝ่ายคาดการณ์กำไร 1Q67 ฟื้นตัวจาก ปัจจัยการปรับขึ้นค่าไฟ Ft 39.72 สตางค์ต่อหน่วย และปัจจัยด้านต้นทุนก๊าซที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐ และแนวโน้มราคาก๊าซในตลาดโลกอาจปรับลงมากกว่าคาด ทางฝ่ายจึงมองว่าผลประกอบการจะเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว จากปัจจัยลบที่ลดลงและรับรู้ไปแล้ว