บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Kasikornbank (KBANK.BK/KBANK TB)*

ราคาหุ้นถูกลงโทษมากไป

Event

Outlook update, lower 2024 target price อัพเดตแนวโน้ม และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567

Impact

ต้องใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ราคาหุ้นของ KBANK ลดลงมากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับการคุมคุณภาพสินเชื่อ, นโยบายการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายความเสี่ยงด้านเครดิต หลังจากที่ธนาคารตั้งสำรองพิเศษก้อนใหญ่สำหรับสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งการตั้งสำรองพิเศษทำให้ธนาคารแนวลานานขี้นในการล้างงบดุล ทั้งนี้เนื่องจากการจัดการหนี้เสียได้ถูกจัดการไปจำนวนมาก โดยตั้งเป้าคชจ.สำรองจะลดลงเล็กน้อยเป็น 175-195bps ในปี 2567 (จาก 208bps ในปี 2566) ซึ่งหากเศรษฐกิจปี 2567 ฟื้นตัวได้ตามคาดที่ประมาณ 3.1% เรามองว่า ณ จุดนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะรักษาคุณภาพสินทรัพย์ โดยแฉพาะสินเชื่อในโครงการปรับโครงสร้าง (หรือ CDR)

บริหารจัดการให้สินเชื่อ CDR ยังไม่นิ่ง

เนื่องจาก GDP มีแนวโน้มขยายตัวลดลง KBANK จึงยังไม่สามารถที่จะลดจำนวนสินเชื่อ CDR ลงได้ในปี 2566 โดยยังอยู่ในช่วงประมาณ 1.75-1.80 แสนล้านบาท หรือประมาณ 7% โดยธนาคารเผยว่าลูกค้าในโครงการ CDR ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ธุรกิจยังไปรอดภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ทังนี้ เพื่อสะท้อนถึงความผันผวนของสมมติฐานอัตราการขยายตัวของ GDP เราจึงยังคงสมมติฐานคชจ.สำรองๆ (credit cost) ปี 2567/2568 ไว้ในระดับสูงที่ 200bps/185bps (จากเป้าปี 2567 ของธนาคารที่ 175-195bps)

ตั้งเป้าจะเร่งการเติบโตของรายได้จากค่าธรรมเนียมในปี 2567

รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมการธนาคารหลักของ KBANK ในปี 2565-2566 ลดลงปีละ 5% เพราะถูกฉุด โดยค่าธรรมเนียมธุรกรรม, ค่าธรรมเนียม AM และค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เมื่อสินเชื่อเร่งตัวขึ้นในปี 2567 ธนาคารคาดว่าค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อ, การบริหารจัดการเงินสด และการบริหารความมั่งคั่ง(wealth management) จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตให้ฟื้นตัวขึ้นเป็น 5-9% ซึ่งในประมาณการปี 2567-2568 ของเรา ใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมการธนาคารหลักที่ 2% ในปี 2567/2568

De-rate PBV เหลือ 0.65x ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567F เป็น 155 บาท (จาก 166 บาท) คงคำแนะนำซื้อ

ถึงแม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะยังผันผวน แต่เราคิดว่าราคาหุ้น KBANK ปรับลงมามากเกินไปแล้ว โดยสรุป เรายังคงสมมติฐานหลัก ๆ สำหรับปี 2567 เอาไว้เหมือนเดิม โดยคาดว่า NIM จะลดลง 10bps, credit cost จะลดลง 200bps, รายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งเมื่อ de-rate PBV เหลือ 0.65x (จาก 0.7x) ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 155 บาท (จาก 166 บาท)

Risks

หนี้เสียเพิ่ม ทำให้คชจ.สำรองฯ เพิ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง

- Advertisement -