Our View? ”ยังต้องรอดูต่อไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,640/1,630 และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 / 1,658 มองตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่ชี้นำ ขณะที่การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รอบเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า FED มีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดวงเงินของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต (QE) ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย. – ธ.ค. ในปีนี้ โดย FED จะปรับลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และปรับลดการซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ลง 5 พันล้านดอลลาร์/เดือน จากปัจจุบันท่ีซื้อตราสารหน้ี MBS ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตามท่ีตลาดคาดการณ์ไว้ เรามองตลาดมีมุมมองท่ีผ่อนคลายความกังวลจากประเด็นดังกล่าวสะท้อนจาก Dollar Index เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลง -0.51 จุด ปิดที่ 94.00 จุด (-0.54%) คาดจะเป็นปัจจัยผ่อนคลายกระแสเงินทุนส่วนเกินไหลเข้าหาตลาดภูมิภาคได้บ้างในระยะสั้น

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. ยังคงแกว่งตัวออกด้านข้างในโซนบน อยู่ที่บริเวณ 80 เหรียญ/บาร์เรล แม้ OPEC จะออกมาปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ จากระดับ 5.96 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 5.8 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม เราคาดราคาน้ำมันยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหนุนอุปสงค์น้ำมัน คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ – กลางน้ำ ปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดตลาดจะยังให้น้ำหนักต่อการที่นายกรัฐมนตรีประกาศเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยจะเร่ิมเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำ ฉีดวัคซีนครบ และผลตรวจเป็นลบ โดยไม่ต้องกักตัว อาทิ อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา และทยอยปรับเพิ่มประเทศในแต่ละเดือน โดยปีหน้าจะเพิ่มข้ึนอย่างกว้างขว้าง ขณะท่ีเราแนะนำติดตามการประชุม ศบค. คาดอาจมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงกลางเดือนนี้-ต้นเดือนหน้า คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม Re-Opening Theme ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง อาทิ โรงแรม-ท่องเท่ียว รวมถึงค้าปลีก และธนาคาร

ขณะที่ BOI เปิดเผยตัวเลขขอรับส่งเสริมการลงทุน 9M/64 มูลค่ารวม 5.21 แสนล้านบาท ดีกว่าคาด และมากกว่าทั้งปี’63 อีกทั้งยังสูงกว่ามูลค่าเฉลี่ยก่อนเกิด COVID-19 เมื่อปี’ 58 – 62 (4.84 แสนล้านบาท) คาดทั้งปี’64 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มนิคมปรับตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะ AMATA และ WHA

ทั้งนี้เรายังแนะนำติดตามความกังวลปัญหาน้ำท่วม จากพายุโซนร้อนไลออนร็อก และคมปาสุ ส่งผลให้ไทยเผชิญฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์นี้ คาดจะเพิ่มปริมาณน้ำโดยเฉพาะช่วงภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดเขื่อนป่าสักฯ แจ้งให้ประชาชนขนของขึ้นที่สูงแล้ว หลังปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดจะกระตุ้นความกังวลปัญหาดังกล่าวเพิ่มเติม เป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้อยู่

รวมท้ังติดตามการออกเกณฑ์สำหรับเลือกหลักทรัพย์เข้าคำนวณ SET50/SET100 ใหม่ของตลท. คาดอาจจะยังไม่พิจารณานำเกณฑ์ FreeFloat มาใช้ แต่อาจจะนำเกณฑ์ Cash Balance ร่วมในการพิจารณาเข้าคำนวณดังกล่าว เราคาดปัจจัยดังกล่าวจะยังคงหนุนทิศทางหุ้น Big Cap ปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากการผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “WHA”

ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 3.38 / 3.28 Target 3.60 / 3.90 Stop <3.26

- Advertisement -