Daily Focus
ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแรงปิดบวก 10.20 จุด รับความคาดหวังเชิงบวกหลังนายกฯ ประกาศเริ่มเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. หนุนหุ้นในกลุ่ม Reopening Play ปรับตัวโดดเด่น สถาบันในประเทศขายสุทธิหนาแน่น 2.5 พันลบ. ขณะที่แรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งซื้อสุทธิสูงถึงกว่า 5 พันลบ. (สถานะใน Index Futures ไม่มีนัยยะ)
แนวโน้มตลาดวันนี้: เราประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,635-1,650 จุด โดยตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯเดือน ก.ย. ออกมาตามคาด +4% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปสูงกว่าคาดเล็กน้อย +5.4% Y-Y ขณะที่ FED ส่งสัญญาณ คาดเริ่มลดขนาด QE กลาง พ.ย. ส่งผลให้ Bond Yield อายุ 2 ปีปรับพุ่งขึ้น ขณะที่อายุ 10 ปีชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม Dollar Index อ่อนค่าระยะสั้น คาดชะลอเม็ดเงินไหลออกจากเอเชียส่วนโฟกัสของตลาดคาดหันมาจับตาผลประกอบการ 3Q21 มากขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศวันนี้ รวมถึงการเริ่มเปิดประเทศ 1 พ.ย. คาดหนุนกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ให้ปรับตัวแข็งแรงกว่าตลาดกลยุทธ์จึงยังแนะนำ “ถือลงทุน” และเน้นหุ้นกลุ่ม Value และ Reopening Play ได้แก่ กลุ่มธนาคารพลังงาน / โรงกลั่น ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว รับเหมาฯ ซึ่งจะได้อานิสงส์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 4Q21-2022
กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้น Value Play และหุ้นเปิดเมือง
หุ้นเด่นเดือน ต.ค.: CFRESH, CK, KBANK, KCE, ORI
หุ้นเด่นวันนี้: IIG
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 41 บาท
- คาดกำไร 3Q21 ยังเติบโตแข็งแกร่ง +13% Q-Q, +46% Y-Y จาก Demand ลงทุนระบบ ERP และ CRM ที่ยังแข็งแรง ขณะที่แนวโน้ม 4Q21 คาดเป็นจุดสูงสุดของปี และเป็นกําไรสูงสุดรายไตรมาส
- แนวโน้มปี 2022 ยังโดดเด่น โดยเฉพาะแรงหนุนจากการลงทุนใหม่ๆ ทั้ง Software Vonage และ Coupe รวมถึงคาดเห็นรายได้จากธุรกิจ CEM Data Analytic และ Digital Insurance Platform ชัดเจนขึ้น เราคาดกำไรปกติปี 2021-2022 +38.6% Y-Y และ +36.9% Y-Y
- แนวรับ 33.50 // 32.50 บาท แนวต้าน 36 // 37.25 บาท
Fund Flow: 2 วันที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$ 1,776 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$ 1,102 ล้าน และ US$ 852 ล้านตามลำดับ ส่วนตลาดอาเซียนโดยรวมไหลเข้านำโดยไทยและอินโดนีเซีย US$ 152 ล้าน และ US$ 55 ล้าน ตามลำดับ และไหลออกจากฟิลิปปินส์และเวียดนามบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดชะลอการไหลออก หลัง Dollar Index พลิกมาอ่อนค่าแรงในระยะสั้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มกัญชงปัจจุบันไม่มีประเด็นการประกาศกฎหมายหนุนให้เก็งกำไรแล้ว กลุ่มต้นน้ำ-กลางน้ำต้องระวังมากขึ้น เพราะเก็งกำไรไปแล้วพอสมควร เรามองความน่าสนใจจะขยับไปสู่กลุ่มผู้ประกอบการปลายน้ำมากขึ้นที่เตรียมออกสินค้าใน 1Q22 ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ดังนั้นกลยุทธ์จึงเน้นเลือกผู้ประกอบการที่มีฐานธุรกิจเดิมที่มั่นคงด้านรายได้และกำไร และหากกัญชงประสบความสําเร็จจะเป็นปัจจัยหนุน เราเลือก Top Pick ปลายน้ำเป็น OSP CBG ICHI กลางน้ำเป็น RBF
(0) TISCO จะประกาศกำไร 3Q21 วันนี้เราคาด -6%Q-Q, -3%Y-Y ตามสินเชื่อที่ชะลอตัว รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง แต่ชดเชยได้บางส่วนจากการควบคุมต้นทุน และการตั้งสํารอง ECL ที่มากในไตรมาสก่อนหน้าแนวโน้มกำไร 4Q21 อย่างไรก็ตาม การเติบโตระยะยาวอาจถูกกระทบบางส่วนจากทั้งกลยุทธ์การเติบโตที่ Conservative รวมถึงอาจถูกกระทบจากการรุกตลาดสินเชื่อจํานําทะเบียนจาก SCB ในอนาคต เราให้ราคาเป้าหมาย 110 บาท แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(+) ZIGA คาดกําไรสุทธิ 3Q21 ท่าสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง +32% Q-Q, +63% Y-Y ตามทิศทางราคาท่อเหล็กเคลือบสังกะสีเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ขยับขึ้น และ Brand แข็งแกร่ง ทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการรวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบแฟรนไชส์และแนวโน้มยังดีต่อเนื่องใน 4Q21-2022 เราปรับประมาณการกำไรปี 2021- 2022 ขึ้นเป็น +72%Y-Y และ +14%Y-Y พร้อมปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 5.40 บาท (รวม ZIGA-W1 หมดแล้ว) ยังแนะนำ “ซื้อ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ลดลง 0.53 จุด ปิดที่ 34,377.81 จุด หลังเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 0.4% M-M ในเดือนก.ย. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 0.3%M-M ขณะที่เทียบรายปีปรับขึ้น 5.4%Y-Y ในเดือนก.ย. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 5.3%Y-Y อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดเร่งขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปเชิงบวกรวมถึงรายงานยอดส่งออกของจีนในเดือนก.ย. เร่งขึ้น 28.1%Y-Y จากเดือนส.ค. ที่ +25.6% Y-Y
(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นหลักๆ จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้แรงหนุนจากดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐท่ามกลางเช้านี้ ติดตามจีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทําการวันนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 20 เซนต์หรือ 0.3% ปิดที่ 80.44 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากกลุ่มโอเปกปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้เป็นเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์เดิมเพิ่มขึ้น 5.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในวันนี้ ท่ามกลางนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 5 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 35.4 ดอลลาร์หรือ 2.01% ปิดที่ 1,794.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคสูงกว่าคาด
SPDR Gold Trust ถือครองทองคํา 982.72 / -2.33