บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
JMT NETWORK SERVICES (JMT TB)
ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
- เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q23 จะเพิ่มขึ้น 4.9% q-q แต่ทรงตัว y-y โดยได้ปัจจัยหนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาลในด้านการเก็บเงินสด และผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ลดลง
- เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-25 เล็กน้อย เพื่อสะท้อนการเก็บเงินสดที่คาดว่าจะลดลง และพอร์ตที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
- คงคำแนะนำ ถือ หลังปรับราคาเป้าหมายปี 2024 ลงเหลือ 25.70 บาท
คาดการเก็บเงินสดที่เพิ่มขึ้น และ ECL ที่ลดลงจะผลักดันกำไร 4Q23
เราคาดว่า JMT จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q23 อยู่ที่ 489 ลบ. (+4.9% q-q, ทรงตัว y-y) จาก 1) การเก็บเงินสดที่ฟื้นตัวในระดับปานกลางตามฤดูกาล ในขณะที่การติดตามหนี้ด้อยคุณภาพประเภทมีหลักทรัพย์ค้ำประกันน่าจะเป็นปัจจัยถ่วงอย่างต่อเนื่องจากอุปสรรคด้านการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน (FI) ให้แก่ลูกหนี้ที่เข้มงวดมากขึ้น; 2) ECL ที่ลดลง 37.3% q-q จากการกลับรายการ ซึ่งน่าจะมีผลแค่ในระดับปานกลางจากสำรองใหม่สำหรับหนี้ด้อยคุณภาพประเภทมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง; และ 3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาล ซึ่งทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้เพิ่มเป็น 20% จาก 15.6%ใน 3Q23 กำไรสุทธิปี 2023 น่าจะจบที่ 1.96 พัน ลบ. ปรับขึ้น 12.3% y~y ซึ่งต่ำกว่าเป้าประมาณการปี 2023 ของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะโต 20-30% y-y
แผนการซื้อหนี้ในปี 2023 ไม่น่ากังวล
เราคาดว่าตัวเลขเงินลงทุนในบัญชีลูกหนี้สินเชื่อของบริษัทฯ ใน 4Q23 จะอยู่ที่ 1.8 พัน ลบ. (+22.1% q-q, +38.4% y-y) ซึ่งจะทำให้เงินลงทุนทั้งปีในสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ที่ 13.7 พัน ลบ. (8.2 พันลบ. จาก JMT และอีก 5.6 พัน ลบ. จาก JK AMC) สอดคล้องกับเป้าประมาณการของบริษัทฯ ที่ 10-15 พัน ลบ. สำหรับในปี 2024-25 เราคงสมมติฐานเงินลงทุนไว้ที่ 9 พัน ลบ. ต่อปี (5 พัน ลบ.จาก JMT และ 4 พัน ลบ. จาก JK AMC) ภายใต้สภาวะอุปทานหนี้ด้อยคุณภาพมีมาก และการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์เชิงรุกของ FI ซึ่งเราได้เน้นย้ำตลอดปีที่ผ่านมา
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 เพิ่มจากการเก็บเงินสดที่ต่ำกว่าคาด
เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2023 จะอยู่ที่ 1.96 พัน ลบ. ปรับขึ้นเพียง 12.3% y-y และต่ำกว่าประมาณการเดิมของเราที่ 2.05 พัน ลบ. อยู่ 4.6% จากสมมติฐานการเก็บเงินสดที่ลดลง และ ECL ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวน่าจะชดเชยได้บางส่วนจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ภายใต้สมมติฐานค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ปี 2023 ที่ 17% นอกจากนี้เรายังปรับประมาณการกำไรปี 2024-25 ขึ้น 1.3-1.6% จากฐานของพอร์ตปี 2023 ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ประมาณการเก็บเงินสดเพิ่มขึ้น ในขณะที่เราคาดว่าจะมีแรงกดดันจากอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนที่ชะลอตัว
คงคำแนะนำถือ หลังปรับราคาเป้าหมายปี 2024 ลงเหลือ 25.70 บาท (GGM)
เราคงคำแนะนำถือ JMT หลังปรับราคาเป้าหมายปี 2024 ลงเหลือ 25.70 บาท (GGM) (จากเป้าก่อนหน้าที่ 30.50 บาท อิงอ้าง 2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและค่า P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) วิธีการประเมินมูลค่าใหม่ของเรามีสมมติฐานจากค่า ROE ที่ 12.5%, COE ที่ 10.5%,และ Equity beta ที่ 1.5 ซึ่งคิดเป็นค่า P/BV ได้ที่ 1.36x (จาก 1.67x ก่อนหน้า) ซึ่งยังคงเท่ากับ 2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต