บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

MINOR INTERNATIONAL (MINT TB)

กลับสู่รอบการเติบโตปกติ

  • ที่ประชุมนักวิเคราะห์ให้ข้อมูลเชิงบวก โดยคาดว่า RevPAR จะโตในอัตราสองหลักพร้อม EBITDA margin ที่สูงขึ้นในปี 2024
  • เราคาดว่ากำไรปกติจะโต 16% เป็น 8.3 พัน ลบ. ในปี 2024 โดยได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงแรมในไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดี และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง
  • คงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 44 บาท (DCF)

คาดผลประกอบการ 1Q24 จะพลิกเป็นกำไร แม้ว่าจะเป็น Low season ในยุโรป

MINT รายงานกำไรปกติ 4Q23 ที่น่าประทับใจโดยอยู่ที่ 2.5 พัน ลบ. (+10% q-q, +5% y-y) สูงกว่าที่ตลาดคาด 6% ส่วนมากจากธุรกิจโรงแรมในไทย ซึ่งทำให้กำไรปกติปี 2023 แตะระดับก่อนโควิดที่ 7. 1 พัน ลบ. นอกจากนี้เรายังได้รับข้อมูลเชิงบวกจากที่ประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 9 ก.พ. โดยรายได้จากการขายห้องพักโตดีในเดือน ม.ค. และตัวเลขการจองห้องพักล่วงหน้าที่อยู่ในเกณฑ์ดีในเดือน ก.พ. และมี.ค. โดยเพิ่มขึ้น 39% y-y สำหรับโรงแรมในไทย และ 20% y-y สำหรับโรงแรมในยุโรป เพราะฉะนั้นเราจึงคาดว่าผลประกอบการ 1Q24 จะมีโอกาสพลิกเป็นกำไร (เทียบกับผลขาดทุนปกติ 0.6 ล้านบาท ใน 1Q23)

คาด EBITDA margin ของธุรกิจโรงแรมจะปรับตัวดีขึ้นจากโรงแรมในไทย

MINT ตั้งเป้าให้ RevPAR ปี 2024 โตในอัตราสองหลัก จากอัตราค่าห้องรายวันเฉลี่ย (ADR) ซึ่งน่าจะช่วยทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ คาดว่าต้นทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปจะทรงตัว อย่างไรก็ดี เราคาดว่า RevPAR จะโตเพียง 6% (+4% สำหรับ NHH และ +10% สำหรับโรงแรมในไทย) ในปี 2024 เราตั้งสมมติฐานแบบ conservative ว่า EBITDA margin ของ NHH จะลดลงเพียงเล็กน้อยเป็น 27.1% (เทียบกับ 27.5% ในปี 2023) เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายในด้านแรงงานและค่าเช่าที่สูงขึ้น ในขณะที่ EBITDA margin ของโรงแรมที่ไม่ใช่ NHH น่าจะกระโดดเพิ่มเป็น 44% จาก 35% ในปี 2023 จากแนวโน้มที่ดีของโรงแรมในไทยและการปรับการจัดสรรต้นทุนสำหรับ Oaks ตาม IFRS16 (ถ้าไม่รวม IFRS16 EBITDA margin น่าจะปรับตัวดีขึ้น 0.5-1%)

MINT ตั้งเป้าให้กำไรปกติโต 15-20% CAGR ในช่วงปี 2023-26

อีกปัจจัยหนุนการเติบโตที่สำคัญอยู่ที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจาก MINT ตั้งเป้าลดหนี้มีดอกเบี้ยจาก 103 พัน ลบ. ในปี 2023 เป็น 90 พัน ลบ. ในปี 2024 (เทียบกับประมาณการของเราที่ 94 พัน ลบ.) และสัดส่วนหนี้มีดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นสุทธิจาก 1.01x ในปี 2023 เป็น 0.8x ในปี 2024 เพราะฉะนั้นเราจึงคาดว่ากำไรปกติจะโต่ 16% เป็น 8.3 พัน ลบ. ในปี 2024 จากสถานะทางการเงินที่ดี MINT ได้เปิดเผยแผน 3 ปีเพื่อขยายพอร์ตโรงแรมเป็น 780 ห้องจาก 532 ห้อง และภัตตาคารเป็น 3,700 ร้าน จาก 2,645 ร้าน ภายในปี 2026 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคาดว่ากำไรปกติจะโต 15-20% CAGR ในช่วงปี 2023-26 (เทียบกับประมาณการของเรา ที่ 13% CAGR)

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร หุ้นมีการซื้อขายในระดับการประเมินมูลค่าที่ต่ำ

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2024-25 ขึ้น 3-4% เพื่อสะท้อนแนวโน้มที่ดีและคงราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 44 บาท (DCF) MINT มีการซื้อขายโดยมีระดับการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจที่ 20x ของค่า 2024E P/E เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 24x, ผู้ประกอบกิจการโรงแรมในไทยที่ 46x, และผู้ประกอบกิจการโรงแรมระดับโลกที่ 22x

- Advertisement -