KS Daily View 13.02.2024 >>> MSCI ก.พ. 67 MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นเข้า BANPU, BJC, OSP ถูกคัดออก กรอบ SET 1,380-1,400 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ SJWD, PSL

สรุปภาวะตลาด

ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.33%S&P500 -0.09% NASDAQ -0.30%; Dollar index +0.04% เป็น 104.126 และค่าเงินบาทปิดที่ 35.898; ราคาน้ำมันดิบ Brent Futures +0.69% เป็น 82.19/bbl; ราคาทองคำ -0.04% เป็น 2018.87/ounce;  US 10Y yield -0.19bps เป็น 4.1793%

ในประเทศ: SET Index +0.930 จุด หรือ +0.07% ปิดที่ 1389.3 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ GLOBAL (+3.80%), CRC (+2.99%), GPSC (+2.45%), MOSHI (+2.28%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ BANPU (-4.10%), VGI (-2.33%), BCH (-2.23%), CPF (-2.15%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,400 จุด รอดูรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ตลาดคาด CPI เดือน ม.ค. ที่ 3.0% ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.4% YoY และ Core CPI ที่ 3.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.9% YoY ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของทางเฟด นอกจากนี้นักลงทุนอาจต้องระวังการปรับฐานของดัชนี S&P 500 จากสัญญาณเตือนทางเทคนิค ได้แก่ การปรับตัวขึ้นของดัชนี S&P 500 เริ่มกระจุกตัวในหุ้นเพียงไม่กี่ตัว, จำนวนหุ้นที่ทำ new high มีน้อยลง (ต่ำสุดนับแต่เดือน ก.ค.), จำนวนหุ้นที่ราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันลดลงเหลือ 62% จากปลายปีก่อนที่ 87% และดัชนี Greed & Fear index เข้าสู่โซน Extreme Greed ซึ่งมักนำมาสู่การปรับฐานในระยะถัดไป ทั้งนี้ปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงที่เหลือของเดือน ก.พ.

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮ ขณะที่ดัชนี S&P500 ขยับลงเล็กน้อย แต่ก็ยังปิดที่เหนือระดับ 5,000 จุด ผลักดันโดยหุ้นกลุ่มพลังงานจากการที่ราคาหุ้น Diamondback Energy ปรับขึ้น 9.4% ประกาศข้อตกลงซื้อกิจการบริษัท Endeavor Energy Partners ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่สุดในแหล่ง Permian Basin โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์

2.) MSCI รอบ ก.พ. 2567 (มีผลราคาปิดพฤหัสฯ 29 ก.พ.) โดย MSCI Global Standard indexsเข้า (-), ออก (BANPU, BJC, OSP) ส่วน MSCI Small Cap indexs เข้า (BANPU, OSP, GLOBAL, SKY, TISCO), ออก (BEC, SUPER)

3.) ที่ปรึกษาการเงิน “โอลิเวอร์” มีข้อเสนอให้ทางบอร์ดของตลาดหลักทรัพย์ 4 เรื่องได้แก่ การเพิ่มกลไกการควบคุม program trading และลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ทั้งในภาพรวมและในกรณี short selling อาทิ การติดตามการทำธุรกรรม short selling หรือการมีกลไกควบคุมราคาเพื่อลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์, การปรับปรุงรายงาน short selling เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดและการติดตามได้ง่ายขึ้น, การปรับบทลงโทษให้มีความเข้มข้น และให้ ก.ล.ต. เพิ่มบทลงโทษหากมีลูกค้ากระทำผิดกฎหรือเอาเปรียบผู้ลงทุนรายอื่น ๆ

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,360-1,404 จุด โดยปัจจัยหลักที่ต้องติดตามได้แก่ นายกรัฐมนตรีจะนัดประชุมบอร์ดเงินดิจิทัลชุดใหญ่ 15 ก.พ. ส่วนปัจจัยต่างประเทศจะเป็นการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือน ม.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2566 ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและอังกฤษ ตลอดจนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ของยูโรโซน ญี่ปุ่น และอังกฤษ

SJWD (ราคาพื้นฐาน 17.50 บาท) เราเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นโลจิสติกส์ 2 บริษัท (ANI ในไทยและ SWIFT ในมาเลเซีย) ของบริษัทจะเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรการลงทุนรอบใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ ยังมีความสามารถในการก่อหนี้ขนาดใหญ่ที่ 1 หมื่นลบ.ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิเพิ่มเป็นเพียง 1.0 เท่า แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง (คาด +68% YoY ในปี 2024) และการผนึกกำลังของการลงทุนใหม่เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

PSL (ราคาพื้นฐาน 9.40 บาท) คาดค่าระวางเรือจะฟื้นตัวหลังหมดเทศกาลตรุษจีน เราเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.40 บาท (จาก 9.10 บาท) หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567/68 ขึ้น 78%/8% เป็น 565 ลบ./1.6 พันลบ. จากแนวโน้มค่าระวางเรือที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายSG&A ที่น้อยกว่าคาด ค่าระวางเรือมีแนวโน้มดีกว่าคาดการณ์เดิมของเราในปี 2567 จากโอกาสที่น้อยลงที่จะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปี 2567, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ข่วยเหลือกลุ่มอสังหาฯ และ ความเป็นไปได้ที่จะเห็นอุปสงค์การกลับมาสต็อกสินค้าก่อนที่จะเกิดการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี 2567 เนื่องจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอเพิ่มอัตราภาษีเพื่อเรียกเก็บการนำเข้าสินค้าจากจีน(4-5 แสนล้านดอลลาร์/ปี) เป็น 60%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรป (Zew Economic Sentiment Index) สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 25 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 22.7 จุด และการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค.
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial production) ของยุโรปสำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 5.3%YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -6.8% YoY
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail sales) ของสหรัฐฯสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +5.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +5.6% YoY และตัวเลขดัชนีภาคการผลิตEmpire State manufacturing index สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ -19.0 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -43.7 จุด และดัชนีภาคการผลิต Philly Fed manufacturing index สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ -11.0 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -10.6 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขขออนุญาตสร้างบ้านใหม่ (Building permits) ของสหรัฐฯสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.1% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.1% MoM ต่อด้วยตัวเลขที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ (Housing starts)สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 1.47 ล้านยูนิตเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.46 ล้านยูนิต ปิดท้ายด้วยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Prelim UoM Consumer Sentiment)สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 79.5 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 79.0 จุด
- Advertisement -