รุกฆาตตลาดหุ้น – บล.ฟิลลิป: (ภาคเช้า) 14/02/67

ไม่มาตามนัด / 1,375-1,395

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

• SET ปรับตัวลง หลังจากนั้นลดช่วงลบได้เล็กน้อย: แรงกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงน้อยกว่าตลาดคาด หากแต่ถูกบรรเทาลงด้วยภาพการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้ การเปิดเผยเงินเฟ้อเดือนม.ค.67 ของสหรัฐฯ ได้แก่ 1) Headline CPI ขยายตัว 3.1% y-y ชะลอลงจาก 3.4% y-y ในเดือนธ.ค.66 แต่มากกว่าตลาดคาดที่ 2.9% y-y และ 2) Core CPI ขยายตัว 3.9% y-y เท่ากับในเดือนธ.ค.66 แต่มากกว่าตลาดคาดที่ 3.7% y-y โดยเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงช้ากว่าคาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ US bond yield 2 และ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 4.67% และ 4.33% ตามลำดับ รวมถึง Dollar index ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 105 คาดเป็นแรงกดดันต่อ SET Index เช่นกัน อย่างไรก็ดีคาด SET Index จะได้แรงพยุงจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.67 ของม.หอการค้าฯ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 62.9 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 47 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนสำคัญจาก มาตรการกระตุ้นศก.และช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ภาพการท่องเที่ยว เป็นต้น ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย ซึ่งกำลังได้แรงหนุนจากเทศกาลตรุษจีน สอดรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยว 8.72 แสนคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา (+13.28% w-w) และสำหรับสัปด่าห์นี้ก.ท่องเที่ยวฯ คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง และจะปรับเข้าสู่ระดับปกติหลังสิ้นสุดช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงาน คาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.24% ปิดที่ $77.87 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
• กลยุทธ์การลงทุน : 1) Spending+ท่องเที่ยว: AAV, AWC, BA, BAFS, CRC, DUSIT, MINT, SNNP, SPA, TACC 2) เก็งงบ 4Q66: BDMS, BEM, BGRIM, ONEE, PTT 3) Dividend play: SAT, SC, SPALI, TISCO, TTW และ 4)พลังงาน BCP, PTTEP, TOP

ปัจจัยบวก

• รมว.ท่องเที่ยวเผยสัปดาห์ที่ผ่านมาพบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 ก.พ.67 มี 4.39 ล้านคน (+48%y-y) สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 2.15 แสนลบ.
• ครม.มีมติกำหนดให้วันศุกร์ที่ 12 เม.ย.67 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน รวมวันหยุดทั้งหมด 5 วัน ตั้งแต่ 12-16 เม.ย.67 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวภายในประเทศ
• ซินหัวรายงานว่า ข้อมูลสถิติจากทางการจีนระบุว่าในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ.67 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของช่วงหยุดยาวตรุษจีนนั้น ภาคการคมนาคมขนส่งของจีนรองรับการเดินทางของผู้โดยสารมากกว่า 273.75 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 22.6% จากวันเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยลบ

• อังกฤษเผยค่าจ้างแบบไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 6.2% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.66 สูงกว่าตลาดคาดที่ 6.0% อัตราการว่างงานลดลงสู่ 3.8% และการจ้างงานเพิ่มขึ้น 7.2 หมื่นตน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจยังคงสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อมากเกินไป จน BoE มีแนวโน้มจะไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ย
• Fitch Ratings ส่งสัญญาณเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ โดยได้ออกรายงานเตือนรัฐบาลอังกฤษให้ควบคุมการใช้จ่ายในแผนงบประมาณของรัฐบาลอย่างเข้มงวด มิฉะนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออีกครั้ง
• ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เผยว่าจีนกำลังเผชิญกับภาวะขาดความเชื่อมั่น เนื่องจากผลกระทบของการที่ศก.จีนเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ และความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงในขณะนี้

PICKS OF THE DAY

MINT BUY

• เป้าหมาย 32.00 / 33.00 แนวรับ 30.00
• ปิดปี 66 ได้ดี เปิดปี 67 ได้สวย: รายได้เฉลี่ยต่อคืนต่อห้องใน 4Q66 ปรับตัวขิ้น 15%y-y ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนกลับมาอยู่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด(ปี62) ถึง 27% ผู้บริหารชี้ในเดือน ม.ค. 67 มีรายได้จากห้องพัก และ รายได้จากการจองห้องพักล่วงหน้าสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 66 กว่า 39% ในประเทศไทย และ 20% ในทวีปยุโรป นอกจากนี้ยังแฃมีแผนขยายโรงแรมอีก 780 แห่งภายใน 3 ปี และเร่งลดสัดส่วน D/E จาก 1 เท่า เหลือ 0.8 เท่า ในสิ้นปี 67
• ลุ้นสงกรานต์คึกคัก นักท่องเที่ยวหนุน: ครม.เคาะอนุมัติวันหยุดราชการพิเศษเพิ่มในวันที่ 12 เม.ย.67 ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วันช่วงสงกรานต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวเข้าไทยช่วงวันที่ 5-11 ก.พ.67 ขยายตัว 13.28%w-w นำโดยนักท่องเที่ยวจีน และ มาเลเซีย สร้าง Sentiment บวกให้หุ้นโรงแรม

TISCO BUY

• เป้าหมาย 101.00 / 103.00 แนวรับ 98.00
• เงินปันผลโดดเด่น: ทางฝ่ายคาดว่า TISCO จะมีการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 66 จำนวน 7.80 บาท/หุ้น โดยคิดเป็น Div. yield 7.8% แต่มีการจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 2 บาท/หุ้น เหลือปันผลครึ่งปีหลังอีก 5.80 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น Div. yield 5.8%
• เข้า MSCI Small cap: TISCO ได้ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Small cap ซึ่งจะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนตามดัชนี MSCI Small cap

- Advertisement -