เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด แต่เป็นบวกกับกลุ่มส่งออก
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.4% ได้แรงหนุนจากแรงซื้อที่กลับเข้ามาหลังจากตลาดหุ้นปรับฐานก่อนหน้านี้ประกอบกับหุ้น Nvidia ปรับขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.4% หลังรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
Market Outlook
ภาพรวมหลังรับรู้เงินเฟ้อสหรัฐฯก็ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ การเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไร้ทิศทาง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2,10 ปี ปรับลงเล็กน้อย สอดคล้องกับ Dollar Index ที่แกว่งอ่อนค่าเล็กน้อย หลังวันก่อนหน้าแข็งค่าร้อนแรง โดยคืนนี้รอติดตามยอดค้าปลีกและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.2%MoM และ 2.19 แสนราย หากรายงานแล้วชี้ในทางที่อ่อนแอกับเศรษฐกิจจะเป็นบวกกับตลาดหุ้นจากการคลายกังวล นอกจากนี้ยังมีรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.2%MoM
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้รอติดตามประชุม Digital Wallet เบื้องต้นกำหนดไว้ช่วง 16.00 น. หากมีความคืบหน้ามากขึ้นจะเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) ส่วนปัจจัยอื่นๆ ติดตามผลประกอบการ 4Q23 ที่เริ่มทยอยประกาศออกมา จากการรายงานเบื้องต้นพบว่ากลุ่มค้าปลีกเห็นผลประกอบการที่สดใส สะท้อนผ่าน CPAXT รายงานกำไร 4Q23 ที่ขยายตัวทั้ง QoQ, YoY สอดคล้องกับ GLOBAL ที่ขยายตัว QoQ, YoY ส่วน CPALL เบื้องต้นก็คาดการณ์ว่าจะเห็นการเติบโตทั้ง QoQ, YoY และมีแนวโน้มที่ 1Q24 จะขยายตัวต่อเนื่อง เพราะมาตรการ E Receive รวมถึงการขยายตัวของ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเป็นปัจจัยหนุนการบริโภคทางอ้อม ด้านบรรยากาศการลงทุนเช้านี้ค่อนข้างสดใสหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีที่แกว่งขึ้น ก็เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับ SET INDEX ให้ปรับขึ้นในวันนี้ในกรอบ 1385 – 1400 กลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมในหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL CPAXT HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (TU) ขนส่ง (BEM)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 41.00 บาท)
CPAXT มีกำไรสุทธิ 3,282 ล้านบาท (+40%YoY, +96%QoQ) หนุนจากผลประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่ฟื้นตัวจาก SSSG ที่ +5.5%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารสดและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยผลประกอบการธุรกิจค้าส่งที่อ่อนตัวลง จากค่าใช้จ่ายคลังสินค้าใหม่และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มากขึ้น
BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท)
คาดว่ากำไรสุทธิงวด 4Q23 ที่ 775 ล้านบาท (+29%YoY, -20%QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารระบบ MRT ที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง ปริมาณจราจรบนทางพิเศษที่ปรับเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กยอยฟื้นตัว และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ ผลจากไตรมาสนี้ไม่มีการจ่ายปันผลจาก TTW และ CKP ขณะที่แนวโน้ม 1Q24 สดใสต่อเนื่อง
