บล.พาย:
BBL: Bangkok Bank PCL
งบดุลแข็งแกร่ง และ Valuation ไม่แพง
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 187 บาท เลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก 1) งบดุลแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน โดย BBL มี NPL ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 2.7% และมี Coverage ratio สูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 314.7% สิ้นปี 2023 2.) อัตราการขยายตัวของกำไรต่อเนื่อง และ ROE ในปี 2024-25 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นระดับใกล้เคียงกับในปี 2019 และ 3) มูลค่าหุ้นไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่เพียง 0.5x PBV’24E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และต่ำกว่าระดับสิ้นปี 2019 ที่ 0.7 เท่า ภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์ เราคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 9.7%/8% ในปี 2024-25 หนุนจากสินเชื่อจะกลับมาขยายตัวล้อกับการขยายตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจ และ Credit cost ปรับลดลงได้จะลดผลกระทบจาก NIM ลดลงได้ สำหรับในผลการดำเนินงานใน 1Q24 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาแข็งแกร่งที่ 11-12 พันล้านบาท ขยายตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ
การประชุมนักวิเคราะห์
- ในปี 2024 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความท้าทายจากภาคการส่งออกและการผลิตที่ชะลอตัว แต่การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยงต่างชาติการลงทุนจากต่างประเทศ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% YoY
- เป้าหมายการเงินปี 2024 (1) สินเชื่อขยายตัว 3-5% (2023: -0.4%) สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่โต 3-5%, สินเชื่อระหว่างประเทศโต 3-5% สินเชื่อผู้บริโภคโต 3-5% และสินเชื่อ SME ขนาดเล็กและกลางโต 2% (2) ส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ลดลงที่ราว 2.8% (2023: 3%) จาก ต้นทุนการเงินปรับสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงล้อกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (3) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่ Low single digit (2023: -1%) 4) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้การดำเนินงาน (CIR) ที่ High-40s % (2023: 48.8%) 5) NPL ratio ที่ 3% (2023: 2.7%) และ 6) Credit cost ที่ 0.9-1.0% ของสินเชื่อรวม (2023: 1.26%)
- ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซียมีโอกาสการขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจของ Permata ในอินโดนีเซียมีแนวโน้มดีกว่าคาด และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพดีขึ้นในอนาคต
- ROE ดีขึ้นตามผลการดำเนินงาน และพิจารณาการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสมมากขึ้น
ROE ยังสูงขึ้นแม้ผลการดำเนินงานปี 2024-25 โตชะลอตัว
- เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024-25 ลงเล็กน้อย 1-2% สะท้อน NIM ในปี 2024-25 ที่ลดลงเหลือราว 2.8% อย่างไรก็ดี เรามองว่าธนาคารมีสำรองหนี้ฯ สูง ทำให้สามารถปรับลด Credit cost ลงได้ โดยตั้งสมมุติฐาน Credit cost ปี 2024 ที่ 100 / 90bps ในปี 2024-25 ขณะที่สินเชื่อกลับมาขยายตัวได้ราว 3.5% ในปี 2024-25 ดังนั้น คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตที่ 9.7%/8% YoY ในปี 2024-25 สูงกว่ากลุ่มธนาคารที่คาดจะเติบโต 8.4%/7.6%
- แม้แนวโน้มกำไรปี 2024-25 จะโตชะลอตัวลง แต่ ROE ยังเป็นทิศทางขาขึ้นสะท้อนว่าความสามารถการทำกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องที่ 8.4%/8.6% ในปี 2024 เท่ากับระดับ 8.5% ในปี 2019
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับลดมูลค่าพื้นฐานที่ 187 บาท
ด้วยมุมมองบวกต่อ ROE ที่เพิ่มขึ้น คุณภาพแข็งแกร่ง และ valuation ที่ไม่แพง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงที่ 187 บาท (เดิม 192 บาท) จากการปรับลดประมาณการกำไรลง ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, Terminal growth 2%) 50 0.64x PBV’24E หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี