บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
CARABAO GROUP 3Q64 คือช่วงเวลาที่ยากลำบากในทุกประเทศ
Action
Trading (Maintain)
TP upside (downside) +12.9%
Close Oct 12, 2021 Price (THB) 122.50
12M Target (THB) 138.25
Previous Target (THB) 123.00
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q64 ท่ี 588 ลบ. (-39.2%QoQ, -35.8%YoY) ต่ำท่ีสุดในรอบ 9 ไตรมาส จาก COVID-19 ระบาดหนักในทุกประเทศหลัก ขณะท่ีจีนได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วม และต้นทุนกระป๋องสูงขึ้น
- 3Q64 เป็นจุดต่ำสุดของปี สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว คาด 4Q64 ฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ จากการคลาย Lockdown ในประเทศ และภาษีน้ำตาลน้อยลง และกลับสู่ภาวะปกติใน 1Q65 เป็นต้นไป หาก COVID-19 ไม่กลับมาระบาดหนักอีก
Our View
- เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CBG
- ผลของกำไร 3Q64 ท่ีได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และต้นทุนอะลูมิเนียมสูงขึ้นมากกว่าคาด เราจึงปรับ ประมาณการกำไรปี 2564 ลง คงประมาณการปี 2565
- ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 ท่ี 29.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตท่ี 33 – 35 เท่า แม้ว่าสูงกว่า OSP แต่ CBG ผ่านการปรับประมาณการลงแล้ว แต่ OSP ยังมีโอกาสปรับลงได้
คาดกำไร 3Q64 ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส
คาดกำไรปกติท่ี 588 ลบ.(-39.2%QoQ, -35.8%YoY) เนื่องจาก 1) ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศหดตัวมากท่ีสุดนับต้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ 2Q63 โดยลดลงราว 14%YoY เครื่องดื่ม C+LOCK ทรงตัว 2) น้ำท่วมในจีนทำให้กระทบการขนส่งและยอดขาย 3) กัมพูชามีน้ำท่วม และการ Lockdown จาก COVID-19 และ 4) เมียนมาร์มีความวุ่นวายทางการเมือง และการระบาดของ COVID-19 คาดรายได้ที่ 3,568 ลบ.(-28.6%QoQ, -19.0%YoY) ด้าน GPM คาดลดลงเหลือ 37.4% จาก 38.1% ใน 2Q64 และ 41.6% ใน 3Q63 เนื่องจาก 1) ค่าขนส่งไปต่างประเทศสูงขึ้น 2) ต้นทุนอะลูมิเนียมสูงขึ้นมาก 3) รายได้ลดลงทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น และ 4) ค่าเงินบาทของค่าทำให้การนำเข้าวัตถุดิบสูงขึ้น ขณะที่รายได้ขายเป็นเงินบาทเกือบทั้งหมด แต่คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี
คาดฟื้นตัวแบบ U-Shape ใน 4Q64 และ V-Shape ในปี 2565
เราคาดกำไร 4Q64 ในกรอบ 650ลบ.+/- ซึ่งจะฟื้นตัวราว 10.1%QoQ แต่ยังหดตัวราว 32.6%YoY เนื่องจาก 1) การเปิดประเทศและการคลาย Lockdown หนุนรายได้ในประเทศพื้นตัวแรง QoQ 2) สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในเมียนมาร์และกัมพูชาเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่การบริโภคฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เมียนมาร์มีความเสี่ยงหากรัฐบาลจำกัดการนำเข้าสินค้าบางประเภท ส่วนกัมพูชามีฐานท่ีต่ำใน 4Q63 ท่ีมีเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ 3) จีนแม้เป็น Low season แต่คาดว่ารายได้อาจทรงตัว QoQ ได้เพราะมีฐานที่ต่ำใน 3Q63 จากเหตุการณ์น้ำท่วมในบางพื้นท่ี ขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการจะกลับสู่ภาวะปกติใน 1Q65 เป็นต้นไป หาก COVID-19 ไม่กลับมาระบาดหนักใหม่ และเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น เพราะการหดตัวใน 3Q64 เกิดจากปัจจัยภายนอก คือ โรคระบาด ภัยธรรมชาติ และต้นทุนอะลูมิเนียมที่สูงขึ้น ไม่ใช่มาจากความนิยมในตัวสินค้าที่ลดลง หากสถานการณ์คลี่คลายการบริโภคจะกลับมาปกติ ขณะที่ราคาอะลูมิเนียมคาดว่าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แรงกดดันด้านต้นทุนจึงไม่มากกว่าที่เป็นอยู่ ขณะที่การปรับสูตรน้ำตาลน้อยจะช่วยลดต้นทุน ซึ่งจะเห็นผลใน 4Q64 เป็นต้นไป เราคาดปี 2565 กำไรของ CBG จะกลับมาที่ระดับ 4,000ลบ.ได้ โดยรายได้ในประเทศและในจีนจะเป็นตัวหลักขับเคลื่อนการเติบโต
ปรับประมาณการปีนี้ลง ปรับไปใช้ราคาปี 2565 คงคำแนะนำ TRADING
จากผลกระทบของ COVID-19 ในทุกประเทศหลัก และการปรับขึ้นของราคาอะลูมิเนียมสูงกว่าคาด ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2564 ลง 12.8% เป็น 2,901 ลบ. และยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ใกล้เคียงเดิมที่ 4,119 ลบ.(+42.0%YoY) คาดว่าหากสถานการณ์ COVID-19 ไม่กลับมากดดันอีกครั้ง จะทำให้ผลประกอบการปี 2565 เป็นไปตามคาด หรือดีกว่าที่คาดไว้ได้ นอกจากนี้เราประเมินว่าราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอใน 3Q64 ไปมากแล้ว จึงทำให้ราคากลับมามี Upside จากราคาเป้าหมายกลางปี 2565 ที่ 123 บาท จึงมองเป็นจังหวะสะสมเก็งกำไรการฟื้นตัวหลังการรายงานงบ 3Q64 วันที่ 12 พ.ย.ทั้งนี้เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 138.25 บาท มี Upside gain 12.9% คงคำแนะนำ TRADING ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 ท่ี 29.7 เท่า สูงกว่า OSP ท่ี 25.3 เท่า แต่ต่ำกว่าเฉลี่ยในอดีตที่ 33–35 เท่า และ OSP มีโอกาสถูกปรับประมาณการลงได้จากประเด็นเดียวกัน