บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)*
จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินล่าสุดพุ่งขึ้นสูงสุดใหม่
Event
สรุปประเด็นสำคัญในปี 2566 และแนวโน้มธุรกิจในอนาคต
Impact
การฟื้นตัวอย่างมากหลังโรคระบาดโควิด 19 คลี่คลาย
การดำเนินงานของ Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* ฟื้นตัวแข็งแกร่งหลังโควิด 19 จบลง ด้วยอัตราการเติบโตรายได้และกำไรที่ 31%/141% YoY ตามลำดับในปี 2565 อิงตามประมาณการรวมของ Bloomberg รายได้ปี 2566F น่าจะเติบโต 16% YoY ส่วนกำไรอาจพุ่งขึ้น 40% YoY จาก i) ทั้งปริมาณผู้ใช้รถยนต์บนทางด่วนและผู้เดินทางรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินปรับตัวขึ้นใกล้กับระดับก่อนโรคระบาดโควิด 19 และ ii) margin ดีขึ้นจากทั้งรายได้สูงขึ้นขณะการควบคุมรายจ่ายทำ ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ประมาณการกำไรใน 4Q66F อิงตาม Bloomberg อยู่ที่ 770 ล้านบาท -20% QoQ แต่ +28% YoY ทั้งนี้ ปกติไตรมาสที่ 3 ของปีจะเป็นช่วง high season
ปริมาณการใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่คาดการปรับราคาเล็กน้อยในปี 2567-2568
ปริมาณรถยนต์รายวันของผู้ใช้ทางด่วนทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 1.110 ล้านคันต่อวันในเดือนมกราคม 2567 ต่ำกว่าผู้ใช้ทางด่วนเฉลี่ยในปี 2562 เพียง 10% ที่ 1.237 ล้านคันต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนอาจใช้เวลาหลายปีเพื่อให้เท่ากับระดับช่วงก่อนโควิดระบาด ในด้านปริมาณจำนวนผู้โดยสารเดินทาง (ridership) รายวันของรถไฟฟ้าสายสำน้ำเงินอยู่ที่ 4.23 แสนคนต่อวันในเดือนมกราคม 2567 สูงกว่า +25% จากค่าเฉลี่ยในปี 2562 ก่อนโควิดที่ 3.37 แสนคนต่อวันและเพิ่มขึ้น +8% จากค่าเฉลี่ยปี 2566 ที่ 3.90 แสนคนต่อวัน (Figure 7-8) ส่วนจำนวนผู้โดยสารเดินทางเดือนกุมภาพันธ์น่าจะดีขึ้นอยู่ราว 5 แสนคนต่อวัน สำหรับทั้งปี 2567 BEM คาดปริมาณ ridership อยู่ราว 4.50 แสนคนต่อวัน (+15% YoY) แต่การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารปี67-68น่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยยะ ส่วนจุดแข็งของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินคือ เป็นเส้นทางเดินรถวงกลมผ่านส่วนในของกรุงเทพซึ่งจะเห็นการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารเดินทางมาจาก i) การเดินทางส่งเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนในอนาคตที่จะวิ่งจากชานเมืองเข้าใจกลางเมือง และ ii) โครงการพาณิชย์และที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นตามเส้นทางสถานีขนส่งมวลชนที่จะมาถึง นอกจากนั้น การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยงถือเป็นผลพลอยได้ดีด้วย
แนวโน้มระยะยาวสดใส
ขณะที่ เราคาดทั้งรายได้หลักและอัตราการเติบโตกำไรกลับสู่ภาวะปกติในช่วงปี 2567-2568 ยังมีประเด็นบวกอีกหลายอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะกลาง เช่น การให้คำตัดสินสุดท้ายจากศาลปกครองสูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่การลงนามรถไฟฟ้าสายสีส้มที่รอกันมานานและการอนุมัติโครงการทางยกระดับชั้นที่ 2 (พระราม 9- งามวงศ์วาน) ส่วนในระยะยาว เราคาดผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างมีนัยยะนับตั้งแต่ปี 2570 เมื่อ การเริ่มเดินหน้าดำเนินงานการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกและม่วงใต้ การเพิ่มอัตราค่าทางด่วน 10 บาทในปี 2571 และครบกำหนดการหักค่าเสื่อมราคารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปี 2572
Valuation & action
เมื่ออิงตามประมาณการรวมของ Bloomberg อัตราการเติบโตรายได้ของ BEM ปี 2567-68 จะกลับสู่ภาวะปกติดวยอัตราการเติบโตเป็นเลขหลักเดียวต่อปี สอดคล้องกับปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าทยอยเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรอาจเติบโตได้สูงกว่าตาม margin ดีขึ้นจากการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในแง่แนวโนมกำไรปี 2570-2572 น่าจะประทับใจจากปัจจัยบวกต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่างไรก็ดี คำแนะนำรวมของตลาด (Bloomberg’s cocsensus) ของหุ้น BEM คือ ซื้อ 16 ราย และไม่มีถือและขาย ประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 10.46 บาท ทั้งนี้ แนวโน้มระยะยาวสดใส ขณะที่ Valuation น่าสนใจ โดยล่าสุดเทรดระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ PE และ PB ในระยะยาว -1SD
Risks
ความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ ๆ การแกไขสัญญาต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนฎระเบียบต่าง ๆ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงงาน และอัตราการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว