บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
CP Axtra PCL (CPAXT.BK/CPAXT TB)
ผลประกอบการ 4Q66: เป็นไปตามคาด
Event
กำไรสุทธิของ CPAXT ใน 4Q66 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (+33% YoY, +96% QoQ) เป็นไปตามประมาณการของเรา แต่ดีกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 7% ทำให้กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท (+12% YoY) ดีกว่าประมาณการกำไรเต็มปีของเรา 7%
Impact
ดีขึ้นทั้งธุรกิจค้าส่ง และค้าปลีก
ธุรกิจค้าส่ง: ยอดขายใน 4Q66 เพิ่มขึ้นเป็น 6.85 หมื่นล้านบาท (+4% YoY, +8% QoQ) ทำให้ยอดขายในปี 2566 อยู่ที่ 2.598 แสนล้านบาท (+7% YoY) โดย SSSG ใน 4Q66 อยู่ที่ 1.7% ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 3.0% เล็กน้อย ทำให้ SSSG ในปี 2566 อยู่ที่ 5.3% ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการเต็มปีของเรา ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q66 อยู่ที่ 10.6% (-60bps YoY, +10bps QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 60bps เพราะมีการออกแคมเปญการตลาด และมีต้นทุนก่อนเปิดดำเนินงานของ DC แห่งใหม่ นอกจากนี้ สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายใน 4Q66 อยู่ที่ 9.5% (จาก 8.9% ใน 4Q65 และ 9.9% ใน 3Q66) สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายสาขา และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายผ่านช่องทาง Omni channel
ธุรกิจค้าปลีก: ยอดขายใน 4Q66 อยู่ที่ 5.38 หมื่นล้านบาท (+5% YoY, +7% QoQ) ทำให้ยอดขายในปี 2566 อยู่ที่ 2.064 แสนล้านบาท (+1% YoY) โดย SSSG ใน 4Q66 อยู่ที่ 5.5% (ในประเทศไทยอยู่ที่ 5.8% และในมาเลเซียอยู่ที่ 3.6%) ซึ่งดีขึ้นมากกว่าที่เราคาดไว้ และทำให้ SSSG ในปี 2566 อยู่ที่ 1.3% (ในประเทศไทยอยู่ที่ 2.1% และมาเลเซียอยู่ที่ -2.5%) ใกล้เคียงกับประมาณการเต็มปีของเรา ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q66 อยู่ที่ 18.2% (-30bps YoY, +40bps QoQ) ดีกว่าประมาณการของเราประมาณ 20bps เพราะ product mix ของอาหารสดดีขึ้น ในขณะที่สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายใน 4Q66 อยู่ที่ 18.1% (ลดลงจาก 20.6% ใน 4Q65 และ 19.8% ใน 3Q66) เพราะการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ มีการลดชั่วโมงการเปิดบริการในบางทำเลที่ตั้ง นอกจากนี้ รายได้ค่าเช่าใน 4Q66 ยังเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 พันล้านบาท (+4% YoY, +2% QoQ) เนื่องจาก occupancy rate เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการอนุมัติแผนปรับโครงสร้างภายใน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายในสิ้นปีนี้
CPAXT จะทำการปรับโครงสร้างภายในโดยรับโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของ Lotus’s stores (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งเมื่อทำธุรกรรม EBT เสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะเดินหน้าควบรวมบริษัทกับ Ek-Chai ภายใต้บทบัญญัติของ พ.ร.บ บริษัทมหาชน ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองบริษัทหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และเกิดบริษํทมหาชนจำกัดขึ้นใหม่ (Newco) ซึ่งตามกระบวนการควบรวมจะมีการจัดสรรหุ้นของ Newco ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท และ Ek-Chai (1 หุ้น CPAXT:0.5 หุ้น Newco และ 1 หุ้น Ek-Chai:10 หุ้น Newco) ดังนั้น ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ Newco จะอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 10,427 ล้านหุ้น (มูล่าพาร์ 1.00 บาท) ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จเรียบร้อย (และนำ Newco เข้าจดทะเบียนในตลาด) ภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทคาดว่าจะอานิสงส์จากการปรับโครงสร้างจะมาจาก i) ความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ ii) ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และ ความคล่องตัวในการดำเนินงาน iii) มูลค่าที่เพิ่มขึ้นจาก synergy iv) บริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ v) การขยายการสนับสนุนไปสู่เกษตรกรในท้องถิ่น, ผู้ผลิตรายเล็ก และ SMES
Valuation
เรายังคงคำแนะนำถือ CPAXT และคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ไว้ที่ 30.00 บาท อิงจาก PER ที่ 32.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศไทยและในตลาดโลก +1.0 S.D.)
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ