บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

SUPALAI ยอดขายลดลงในระยะสั้น… แต่แนวโน้มกำไรยังแกร่ง

Action

BUY (Upgrade)

TP upside (downside) 22.8%

Close Oct 12, 2021 Price (THB) 20.20

12M Target (THB) 24.80

Previous Target (THB) 23.10

What’s new?

  • บริษัทรายงาน Presale 3Q64 ท่ี 4.5 พันลบ. ลดลง QoQ และ YoY จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกท่ี 3 และมาตรการล็อกดาวน์
  • บริษัทมียอดเปิดตัวโครงการใหม่สะสม 9M64 ท่ี 1.6 หมื่นลบ. และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 4Q64 ทั้งสิ้น 16 โครงการรวมมูลค่าสูงถึง 1.8 หมื่นลบ.
  • แนวโน้มผลประกอบการคาดเติบโตเด่นกว่า 40-56%YoY จากการรับรู้รายได้ Backlog โครงการแนวสูงเสร็จใหม่จำนวนมาก

Our View

  • Presale 3Q64 ท่ีลดลง QoQ และ YoY ในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม คาดเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น ขณะท่ี 4Q64 คาดฟื้นตัวเด่นจากสถานการณ์ COVID-19 ท่ีปรับตัวดีขึ้น หนุนด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ที่หนาแน่น
  • คงประมาณการกำไรปกติปี 2564/65 ท่ี 5.8 พันลบ. และ 6.2 พันลบ. ตามลำดับ
  • ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1H65 ท่ี 24.80 บาท/หุ้น จากการ Re-rate PER1H65 เป็น 8.7x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัท

Presale 3Q64 ลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์และปิดแคมป์

บริษัทรายงาน Presale 3Q64 ท่ี 4.5 พันลบ. ลดลง 21% QoQ และ 46% YoY เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกท่ี 3 และมาตรการล็อกดาวน์ที่จำกัด กิจกรรมการเดินทาง และยอดเยี่ยมชมโครงการ Presale 3Q64 แบ่งออกเป็นโครงการแนวราบ 3.5 พันลบ. (-21%QoQ, -21%YoY) แม้มียอดเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 6 โครงการรวมมูลค่า 6.8 พันลบ. แต่โครงการส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งมีอัตราดูดซับอุปทานท่ีต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโครงการกรุงเทพฯ นอกจากนี้อุตสาหกรรมแนวราบยังได้รับผลกระทบเชิงลบจากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วงเดือนก.ค.2564 จำกัดสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด สำหรับ Presale แนวสูงรายงานท่ี 1.0 พันลบ.(-21%QoQ,- 74.3% YoY) จากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกท่ี 3 ซึ่งมีความรุนแรงกว่ามาก เมื่อเทียบกับระลอกท่ี 1 และ 2 ในช่วงปี 2563 ทั้งนี้ Presale 9M64 ของบริษัทอยู่ที่ 1.8 หมื่นลบ. หรือคิดเป็น 65% ของเป้าหมายทั้งปี 2564 ของบริษัทท่ี 2.7 หมื่นลบ.

แผนเปิดตัวโครงการใหม่ที่หนาแน่นใน 4Q64 คาดเป็นปัจจัยหลักหนุนยอด Presale ปี 2564

ในช่วง 9M64 บริษัทมียอดเปิดตัวโครงการใหม่สะสมท่ี 1.6 หมื่นลบ.เป็นโครงการแนวราบทั้งสิ้นจำนวน 15 โครงการ (บริษัทเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 1 โครงการ มูลค่า 680 ลบ.ในช่วง 3Q64 ไปยัง 4Q64) หรือคิดเป็นเพียง 47% ของเป้าหมายการเปิดตัวใหม่ในปี 2564 ของบริษัทท่ี 3.4 หมื่นลบ. อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 4Q64 จำนวน 16 โครงการ รวมมูลค่าสูงถึง 1.8 หมื่นลบ. แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ รวมมูลค่า 1.2 หมื่นลบ. และโครงการแนวสูงจำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่า 5.8 พันลบ. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกท่ีบริษัทกลับมาเปิดตัวโครงการแนวสูงในรอบ 5 ไตรมาส อัตราดูดซับอุปทานยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามในระยะสั้น ทั้งนี้ด้วยมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ท่ีหนาแน่น รวมถึงมาตรการคลายล็อกดาวน์และวัคซีน mRNA ท่ีจะเข้ามาเพิ่มเติมในช่วง 4Q64 คาดเป็นปัจจัยหลักหนุนยอด Presale ในปี 2564

Presale 3Q64 ไม่ใช่ปัญหาต่อการรับรู้รายได้ เนื่องจากเป็นช่วงการเก็บเก่ียว Backlog แนวสูง

แม้ยอดขาย 3Q64 จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY และคาดเป็นจุดต่ำสุดของปี แต่เราคาดยอดขายดังกล่าวส่วนใหญ่ เป็นการระบายสินค้าคงคลังที่สามารถรู้เป็นรายได้ภายในไตรมาส บวกกับบริษัทมี Backlog โครงการแนวสูงท่ีคาด รับรู้เป็นรายได้ในช่วง 2H64 สูงถึง 8.6 พันลบ.หลักๆ จะมาจากโครงการท่ีแล้วเสร็จในช่วง 2Q64-3Q64 ได้แก่ Supalai Premier Charoen Nakorn, Supalai Riva Grand และ Supalai Veranda Phasi Charoen รวมมูลค่า 1.4 หมื่นลบ.(ณ สิ้น 2Q64 มียอดขายเฉลี่ยท่ี 83%) นอกจากนี้บริษัทยังมี Backlog แนวราบท่ีคาดจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีอีกจำนวน 5.6 พันลบ. คิดเป็น Secured revenue จากประมาณการรายได้ปี 2564 ของเราท่ี 2.7 หมื่นลบ.แล้วกว่า 66% เป็นผลให้เราคาดเบื้องต้นผลประกอบการในช่วง 3Q64 มีโอกาสเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ที่ระดับ 1.7-1.9 พันลบ.+/- สำหรับช่วง 4Q64 อุปสงค์แนวราบคาดจะได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และสถานการณ์ COVID-19 ท่ีฟื้นตัวดีขึ้นจาก 3Q64 ขณะท่ียอด Presale และยอดโอนโครงการแนวสูงในปี 2564 ยังมี Upside risk หากรัฐมีมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงต้นเดือนพ.ย.2564

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้น 1H65 เป็น 24.80 บาท/หุ้น

เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2564/65 ท่ี 5.8 พันลบ. และ 6.2 พันลบ.ตามลำดับ แต่ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเหมาะสม 1H65 เป็น 24.80 บาท/หุ้น จากการ Re-rate PER 1H65 เป็น 8.7x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท จากแนวโน้มการฟื้นตัวของอัตราดูดซับอุปทานในช่วง 4Q64 และแนวโน้มกำไรช่วง 2H64 ท่ีแข็งแกร่ง ความเสี่ยงสำคัญได้แก่ 1) ความเสี่ยงต่อยอด Cancellation และความล่าช้าในการโอน Backlog โครงการแนวสูง 2) การแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าคาดการณ์ของตลาดแนวราบในปี 2564/65 3) ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ทั้งในและต่างประเทศและ 4) อัตราการปฏิเสธสินเช่ือที่สูงขึ้น

- Advertisement -