KS Daily View 19.02.2024 >>> ตลาดสหรัฐปรับขึ้น สะท้อนเฟดเลื่อนการลดดอกเบี้ย ประเมิน SET แกว่งในกรอบ 1,380-1,410 จุด หุ้นแนะนำ BEM, BTG

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ: ดัชนี DJIA -0.37% S&P500 -0.48% NASDAQ -0.82%; Dollar index +0.00% เป็น 104.275 และค่าเงินบาทปิดที่ 35.9; ราคาน้ำมันดิบ Brent Futures +1.5% เป็น 83.47/bbl; ราคาทองคำ +0.5% เป็น 2024.1/ounce;  US 10Y yield +6bps เป็น 4.23%

ในประเทศ: SET Index -1.00 จุด หรือ -0.07% ปิดที่ 1386.27 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ BCP (+3.45%), SPRC (+2.99%), PTT (+2.88%), PTTEP (+1.97%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ DELTA (-4.91%), HANA (-4.79%), IVL (-4.08%), KCE (-3.64%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,400 จุด หลัง US 10Y bond yield ปรับขึ้นอีกครั้งสะท้อนเฟดเลื่อนการลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ออกมาที่ +0.3% MoM และ +0.9% YoY (สูงกว่าคาดที่ +0.1% MoM และ +0.6% YoY) สำหรับวันนี้ติดตามการประกาศตัวเลข GDP 4Q23 ของไทย หากออกมาต่ำคาด (Bloomberg consensus คาด -0.2% QoQ แต่โต 2.5% YoY และ GDP ทั้งปี 2023 โต 2.1% YoY) มองตลาดมีโอกาสปรับฐาน เนื่องจากกว่ารัฐบาลจะผลักดันนโยบายกระตุ้นด้านการคลังต้องรอ พรบ. งบประมาณปี 2567  ผ่านสภาวาระ 2 และ 3 ในเดือน เม.ย. อาจทำให้ กนง. ต้องเข้ามาช่วยผ่อนหนักเป็นเบาด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยไทย-สหรัฐฯ กว้างขึ้น เพราะเฟดคงยังไม่รีบลดดอกเบี้ยจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัวสูง ส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า อย่างไรก็ตามมองกลุ่มส่งออก และท่องเที่ยวได้อานิสงค์จากธีมดังกล่าว

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ปลัดกระทรวงพลังงานให้ข้อมูลว่ากระทรวงได้เร่งรัดให้แหล่งเอราวัณดึงก๊าซในอ่าวไทยตามสัญญา จาก 200 เป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้ เพื่อลดการนำเข้า LNG ซึ่งเป็นแหล่งที่มีราคาสูง สำหรับแนวโน้มด้านราคา LNG ในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยที่ 9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ลดลงจากปี 2566 ที่มีราคา 30-40 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู มองเป็นบวกกับโรงไฟฟ้า SPP, ลูกค้าอุตสาหกรรม (CBG, OSP, BGC, DCC) ปิโตรฯเคมี (PTTGC) และโรงแยกก๊าซ (PTT)

2.) ปลัดแรงงานให้ข้อมูลว่าทางกระทรวงเตรียมออกสูตรค่าแรงใหม่ มิ.ย.นี้ แยกรายพื้นที่-รายอุตสาหกรรม ทั้งนี้จะไม่ใช่แค่ลงในระดับจังหวัด แต่จะลงไปถึงอำเภอ และจะแยกในรายเซ็กเตอร์ด้วย โดยในจังหวัดเดียวกัน แรงงานในเซ็กเตอร์หนึ่งอาจจะสูงกว่าอีกเซ็กเตอร์หนึ่ง มองกระทบอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเยอะ เช่น รับเหมา, ร้านอาหาร,ท่องเที่ยว เป็นต้น

3.) ติดตามแนวโน้ม FDI เข้าไทย โดย ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า จากการพบและหารือกับนักลงทุนยังให้ความมั่นใจว่าจะเพิ่มการลงทุนในไทย ซึ่งการลงทุนในนิคม จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี จึงจะเห็นเม็ดเงินที่เข้ามาอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้เราเห็นว่ามีการลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนจากตัวเลขการขายที่ดินในนิคมปี 2566 ที่ได้ 6,000 ไร่ สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2,500 ไร่ โดยนักลงทุนหลักที่ขยายเข้ามาคือ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ซึ่งมีบริษัทแม่จากสหรัฐให้ย้ายมา เช่นเดียวกับนักลงทุนจีนก็ย้ายมาเช่นกัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถดึงดูดการลงทุนเข้ามาได้ เพราะคู่แข่งเวียดนามเกิดปัญหาไฟดับบ่อย ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่เรามีปริมาณไฟฟ้าสำรองจำนวนมาก แต่ในอนาคตจะต้องเพิ่มการพัฒนาพลังงานสะอาดมากขึ้นเพื่อดึงการลงทุน

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,410 จุด โดยปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของไทย, ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือน ก.พ., ยอดขายบ้านมือสองเดือน ม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ม.ค.67

หุ้นแนะนำวันนี้

BEM (ราคาพื้นฐาน 10.75 บาท) เก็งกำไรบนประเด็นที่รัฐบาลมีโอกาสลงนามสัญญา “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” 1.4 แสนล้าน ในเดือนเม.ย.นี้ หากมีคำตัดสินจากทางศาลปกครองตามรายงานข่าวของสำนักพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ทั้งนี้ BEM รายงานตัวเลขผู้โดยสาร MRT เดือน ม.ค. ที่4.23 แสนเที่ยว (+5% MoM, +13% YoY) คิดเป็น 133.5% ของระดับก่อนโควิด ขณะที่จำนวนรถบนทางด่วนอยู่ที่ 1.11 ล้านคัน (-2% MoM, +0.5% YoY) คิดเป็น 90% ของระดับก่อนโควิด โดยเรามองว่าตัวเลขผู้โดยสาร และรถบนทางด่วนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 21% YoY และ 8% YoY ในปี 2024 ตามลำดับ ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

BTG (ราคาพื้นฐาน 24.40 บาท) สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทยปรับขึ้นราคาสุกรหน้าฟาร์มประจำวันพระที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 อีกกิโลกรัมละ 2 บาท ส่งผลให้ราคาสุกรขุนปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 68-70 บาท มองเป็น sentiment บวกกับกลุ่มปศุสัตว์ โดยเราคาดBTG จะรายงานผลขาดทุนลดลงในไตรมาส 4/66 ที่ -671 ลบ. ทำให้ทั้งปี 2023 จะมีผลขาดทุน -1,170 ลบ. ก่อนพลิกเป็นกำไรสุทธิ 2,053 ลบ. ในปี 2024 ตามการฟื้นตัวของราคาปศุสัตว์ในประเทศ ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และการอ่อนค่าของเงินบาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามตัวเลข GDP ไทยสำหรับไตรมาสที่ 4/66 ตลาดคาดว่าจะขยายตัว -0.2% QoQ และ 2.5% YoY โดยประเมิน GDP ไทยทั้งปี 2566 จะขยายตัวได้ 2.1% ขณะที่ตลาดต่างประเทศฝั่งสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
  • วันอังคาร ติดตามการประกาศตัวเลขอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารจีน (PBOC) โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย Loan prime rate ระยะ 1 และ 5 ปี ไว้ที่ 3.45% และ 4.20% ตามลำดับ ต่อด้วยติดตามตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของยุุโรปสำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดจะเกินดุลที่ 45 พันล้านยูโร เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 31.7 พันล้านยูโร
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่นสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดจะขยายตัว 12.5% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.8% YoY และติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยุโรปสำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ -15.5 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -16.1 จุด ต่อด้วยตัวเลขยอดขายรถของไทยสำหรับเดือน ม.ค. โดยตัวเลขรายงานในเดือนก่อนหน้าที่ 68,326 คัน และปิดท้ายที่ติดตามบันทึกการประชุม Fed FOMC minutes
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้นของยุโรป (Flash PMI) สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 46.8 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 46.6 และดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของยุโรปสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 2.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.9% YoY และ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของยุโรปสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 3.3%YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.4% YoY ปิดท้ายที่ตัวเลขยอดขายบ้านของสหรัฐฯสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 3.96 ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.78 ล้านยูนิต
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีราคาบ้านของจีนสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ -0.7% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% MoM และติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมัน (German ifo Business Climate) สำหรับเดือน ก.พ. โดยตัวเลขรายงานที่ 85.2 ในเดือนก่อนหน้า
- Advertisement -