หวังจีนได้ไหม / 1,380-1,400

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ให้น้ำหนักในทางขึ้น: แรงหนุนจากความหวังต่อศก. จีน แต่หากถูกจำกัดด้วยความกังวลภาวะศก. ในฝั่งยุโรป ทั้งนี้ นักลงทุนเริ่มกลับมามีความหวังต่อการฟื้นตัวของศก. จีนอีกครั้ง หลังจีนเผยยอดการเดินทางท่องเที่ยวทั่วจีนอยู่ที่ 474 ล้านครั้งในช่วงหยุดตรุษจีน 8วัน (10-17 ก.พ) เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 62 ขณะที่ยอดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 8% เมื่อเทียบกับปี 62 นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการบริโภคในจีนกำลังฟื้นตัว กอปรกับมีความหวังต่อการกระตุ้นศก.ของจีน หลังวานนี้ PBOC ได้อัดฉีดสภาพคล่อง 5 แสนล้านหยวน เข้าสู่ระบบธนาคารผ่านทางโครงการ MLF ก่อนที่จะประกาศ LPR ซึ่งทางฝ่ายมอง LPR เป็น Swing factor สำคัญต่อ SET Index ในวันนี้ ในกรณีที่ 1) หาก PBOC มีการปรับลด LPR1 และ 5 ปี ตามที่ตลาดคาดสู่ 3.40% (จาก 3.45%) และ 4.10% (จาก 4.20%) จะเป็น Sentiment ทางบวกต่อ SET Index และในกรณีที่ 2) หากไม่มีการปรับลด LPR ทางฝ่ายมองจะเป็นการสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุน และเป็น Sentiment ทางลบต่อ SET Index ทั้งนี้ ทางฝ่ายให้น้ำหนักหลักต่อกรณีแรก ตามความพยายามในการกระตุ้นศก.และเรียกความเชื่อมั่นทางด้านตลาดทุนของจีน อย่างไรก็ดี มองทางขึ้นของ SET Index จำกัดจากความกังวลภาวะศก.ในฝั่งยุโรปหลังธนาคารกลางเยอรมนีออกรายงานประจำเดือนก.พ. โดยระบุว่าศก.เยอรมนี้มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว จากอุปสงค์ภายนอกประเทศมีความอ่อนแอ ผู้บริโภคยังคงมีท่าที่ระมัดระวังในการใช้จ่าย และการลงทุนในประเทศถูกจำกัดจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับสูง ขณะที่วันนี้การขึ้น XD 1.70 บาท/หุ้น ของ INTUCH คาดกระทบ SET Index ราว 0.44 จุด (-0.03%) นอกจากนี้ ในวันนี้ติดตามการประชุมครบ. ซึ่งอาจเผยให้เห็นถึงความคืบหน้าของ Digital Wallet โดยลุ้นหนังสือความเห็นของป.ป.ช.เข้าครม. หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าไม่ทัน
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 4Q66: AMATA, BEM, ONEE, ROJNA, SISB, WHA 2) Dividend play: SAT, SC, SPALL, TISCO, TTW 3) Spending: CPALL, CPN, HTC, MINT, OR และ 4) Commodity play: NER, STA, SPRC, TOP

ปัจจัยบวก

  • นักลงทุนเริ่มมีความหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.มากขึ้นจาก 1) ภาพศก.ไทยที่ขยายตัวต่ำหลังสภาพัฒน์เผย GDPปี 66 ขยายตัว 1.9% ชะลอลงจาก 2.5% ในปี 65 และปรับลดคาดปี 67 ลงสู่ 2.7% จาก 3.2% 2) ปัญหาเชิงโครงสร้างของศก.ไทย และ 3) แรงกดดันทางเมือง
  • ม.หอการค้าฯคาดวันมาฆบูซาปีนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 2,432 ลบ.ขยายตัว 28% ซึ่งเป็นการขยายตัวในรอบสามปีตั้งแต่ปี 63 โดยการใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ย 1,560 บาท ใช้ไปกับการทำบุญการเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้าน
  • กรมเจ้าท่าเผยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้การเดินทางขนส่งทางน้ำปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนม.ค.67 มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวสูงถึง 7.47 ล้านคน หรือเฉลี่ย วันละ 2.4 แสนคน/วัน เพิ่มขึ้น 20.71% y-y
  • EEC จับมือ ETDA ยกระดับการทำธุรกรรมดิจิทัลหวังลดขั้นตอนและต้นทุนผู้ประกอบการ เชื่อเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจกระตุ้นการลงทุนใน EEC

ปัจจัยลบ

  • ม.หอการค้าฯปรับลดคาดส่งออกของไทยปี 67 ลงมาเหลือเติบโต 2.5%จาก 3% เนื่องจากช่วงครึงปีหลังยังมีความเสี่ยงจากเงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้น เหตุการณ์ในทะเลแดง และการฟื้นตัวของศก.
    จีนยังคงมีข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง
  • ผอ.สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ระบุว่า FBI กำลังจับตาความพยายามของจีนในการปล่อยมัลแวร์เข้าสู่เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อก่อกวนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ
  • เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยว่า สหรัฐฯได้เตือนจีนว่าสหรัฐฯและพันธมิตรจะเข้าดำเนินการ หากจีนทุ่มสินค้าในตลาดโลก เพื่อพยายามแก้ปัญหาศักยภาพการผลิตทางอุตสาหกรรมที่มากเกินไปของจีน

PICKS OF THE DAY

AMATA BUY

  • เป้าหมาย 24.00 / 24.50 แนวรับ 22.50
  • เก็งงบฯ 4Q66 เติบโต y-y: ทางฝ่ายคาดงบงวด 4Q66 ที่จะเผยวันที่ 28 ก.พ. นี้ จะมียอด Pre-Sale ที่ดินรวม (ไทย-เวียดนาม) ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,700 ไร่ ขณะที่ยอดโอนที่ดินปิดงวดปี 66 คาดไว้ที่ 650 ไร่ (ไทย 420 ไร่, เวียดนาม 230 ไร่) และคาดกำไร 4Q66 ที่ 782 ลบ. (+38%q-q)
  • สภาพัฒน์เพิ่มคาดเอกชนลงทุนไทยในปีนี้: สภาพัฒน์เผยการลงทุนภาคเอกชนของไทยใน 4Q66 เติบโต 5.0% y-y เพิ่มขึ้นจาก 3Q66 ที่ขยาย ตัว 3.5%y-y นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มประมาณการ การลงทุนปี 67 ของภาคเอกชน จากเดิม 2.8%y-y สู่ 3.5% y-y

SPALI BUY

  • เป้าหมาย 20.50 / 21.00 แนวรับ 19.20 / 19.50
  • เก็งงบ 4Q66 ฟื้นตัวได้ดี: คาดงบ SPALI ที่จะประกาศในวันนี้ หากมองผลประกอบการในช่วง 4Q66 คาดว่ากำไรฟื้น q-q ได้ดี จากการโอนโครงการที่มีระดับกำไรอยู่ในช่วงปกติ เนื่องจาก 9M66 ที่ผ่านมา มีการโอนโครงการที่ต้องลดราคาที่ขายในช่วงโควิดและโครงการที่กระทบเรื่องต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้นในช่วงปลายปี 65
  • ปี 67 สดใสสุดในกลุ่ม: ปี 67 ดูดีกว่ากลุ่ม เนื่องจากเปิดโครงการ All time high จำนวน 42 โครงการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นลบ. สวนทางกับตลาดฯมีการเปิดโครงการที่ลดลง และจะมีคอนโดครบกำหนดโอนถึง 5 โครงการ มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นลบ. ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่มีเพียง 3,775 ลบ. 2 โครงการ และยังมีการลงทุนในออสเตรเลียเพิ่มอีกกว่าเท่าตัว มอง SPALI ปีนี้โดดเด่นกว่ากลุ่ม
- Advertisement -