Daily Focus: Earnings and Selective Play

2024 SET Target : 1520

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องตามคาด ปิดบวกเล็กน้อย 1.06 จุด ที่ระดับ 1,387.33 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 3.2 หมื่นลบ. โดยตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่ประเด็นการลดดอกเบี้ยของ FED ที่ช้ากว่าที่เคยมอง รวมถึง GDP 4Q23 ไทยที่ต่ำกว่าคาดจำกัด Upside สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 6849 ลบ. แต่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1.2 พันลบ. (และ Long Index Futures กว่า 1.4 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,380-1,395 จุด โดยขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องในวันประธานาธิบดี และรอติดตามรายงานการประชุม FED คืนวันพุธให้ตลาดประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ FED จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มองว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศหลังจากสภาพัฒน์ประกาศ GDP 4Q23 ออกมาต่ำกว่าคาด และมีการกล่าวถึงธปท.ให้ทบทวนอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับนายกฯที่กดดันต่อเนื่อง ทำให้ตลาดคาดหวังมากขึ้นจะเห็นลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.25% ในการประชุมรอบถัดๆไป ซึ่งเรามองว่าสะท้อนผ่าน Bond Yield 10 ปีของไทยทรงตัวบริเวณ 2.6% หลังจากปรับลงต่อเนื่องจากระดับ 3.3% ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนโฟกัสหลักในระยะนี้ยังคงอยู่ที่การประกาศผลประกอบการ 4Q23 บจ.ที่หนาแน่นในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป และการปรับลดประมาณการกำไรปี 2024 ลงว่าจะมากน้อยเพียงใด ทำให้ระยะสั้นภาพรวมดัชนียังปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด จึงยังเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดประกาศกำไรแข็งแกร่งและมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง ส่วนระยะยาวยังคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่ Bottom ในปี 2023 แล้ว ก่อนทยอยเร่งตัวขึ้นในปี 2024 โดยยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงงบประมาณประจำปี 2024 ที่คาดว่าจะ ผ่านสภาฯ ได้ใน 2Q24 เรายังมองดัชนีที่ระดับ 1,350-1,360 จุด ยังน่าสนใจในการทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2024 แข็งแกร่ง และ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid

หุ้นเด่นเดือน ก.พ.: CPALL, ITEL, MINT, PR9, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : SNNP

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท
  • คาดกำไร 4Q23 ทำ New High ที่ 167 ลบ. +5% q-q, +10% y-y จาก high season โดยเฉพาะรายได้เวียดนามที่เร่งขึ้นเป็นจุดสูงสุดของปี จาก U-rate ที่สูงขึ้น และ Product Mix ที่ดี หนุน Gross Margin ทำ New High ส่วน Siri pro ยังขาดทุนแต่จะทยอยดีขึ้น จบปี 2023 คาดกำไรที่ 638 ลบ. +24% y-y
  • บริษัทตั้งเป้ารายได้ในประเทศปี 2024 โต Double Digit และให้เป้าต่างประเทศโตมากกว่า อาจโตอยู่ในกรอบ 20-30% จากเวียดนาม เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ส่วนเป้า Gross Margin Aggressive มากขึ้นให้กรอบ 30-31% เราคาดกำไรปี 2024 ที่ 785 ลบ. +23% y-y
  • แนวรับ 18.80//18.20-18 บาท แนวต้าน 19.40//19.80-20 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนผสมผสาน สุทธิแล้วยังไหลเข้าภูมิภาคแต่บางลงเหลือ US$121 เม็ดเงินไหลเข้าเกาหลีใต้ US$499 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวัน US$478 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซียและไทย US$54 ล้านและ US$34 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสคาดว่ายังผสมผสานโดยตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) GDP 4Q23 ต่ำคาด -0.6% q-q, +1.7% y-y การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังโตแกร่ง ส่วนปัจจัยถ่วงคือการอุปโภคและการลงทุนภาครัฐที่หดตัวแรง ขณะที่การส่งออกเริ่มฟื้นตัว ทำให้ทั้งปี 2023 GDP ไทย +1.9% y-y สำหรับปี 2024 สภาพัฒน์คาด GDP ไทยจะเติบโต 2.2-3.2% y-y สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยที่โตช้ากว่าที่คาด และส่งสัญญาณถึงธปท.ให้ทบทวนอัตราดอกเบี้ย

(0) TU 4Q23 ขาดทุนสุทธิ 1.72 หมื่นลบ. จากด้อยค่า RL 1.84 หมื่นลบ. หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 4Q23 ที่ 1.2 พันลบ. -20% q-q, -31% y-y ต่ำกว่าคาด จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาดเล็กน้อย จบปี 2023 มีกำไรปกติ 4.74 พันลบ. -32% y-y แม้ภาพธุรกิจหลัก Ambient, Frozen อาจทรงตัวใน 1Q24 ส่วน Pet food อาจอ่อนตัว q-q ไปในทิศทางเดียวกับ ITC แต่ด้วยผลขาดทุนของ RL ที่จะหายไปตั้งแต่ 1Q24 คาดหนุนให้กำไรใน 1Q24 และต่อเนื่องไปใน 2Q24 เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2024 +16% y-y และราคาเป้าหมาย 19 บาท แนะนำ “‘ซื้อ”

(+) ITC บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2024 โต 15% y-y หลังจบ Destocking ลูกค้า US, EU กลยุทธ์ปี 2024 จะเน้นขยายฐานลูกค้า Private label และกำลังขยายลูกค้า Global brand Top 5 ของโลก อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นเป้าที่ท้าทาย ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใส ดังนั้นเราจึงปรับลดกำไร สุทธิปี 2024-25 ลงเป็นเติบโต +41% y-y และ +15% y-y ตามลำดับ ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 27 บาท ITC มีจุดแข็งอยู่ที่การมีต้นทุนที่ถูกกว่าคู่แข่ง และมีลูกค้า Global brand อยู่ใน portfolio หลายราย คงคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) EPG โทนจากการประชุม ทำให้มั่นใจมากขึ้นกับ operations operations ในต่างประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกาใต้ กำไรที่ประกาศไปแล้วถือเป็นกำไรที่ดีในช่วง low season แต่ยังมีบางประเทศที่ยังไม่ดีเท่าที่ควรคือแอฟริกาใต้และออสเตรเลีย ในออสเตรเลียน่าจะยังมีค่าใช้จ่ายสูงอีกไตรมาสนึง ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรและไอทีจากการซื้อสาขาร้าน TJM เข้ามา ส่วนแอฟริกาใต้ที่ตั้งสำรองลูกหนี้เยอะ อาจจะยังตั้งเยอะอยู่ในไตรมาสถัดไป แต่เชื่อได้คืนเพราะขายได้ดี EPG ยังอยู่ในทิศทางฟื้นต่อเนื่อง วัตถุดิบไม่มีปัญหาเหมือนช่วงโควิดแล้ว ราคาเป้าหมาย 11 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) TOP โทนประชุมนักวิเคราะห์ช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นบวกทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุน ดังนี้ 1) แนวโน้มราคาน้ำมันดิบน่าจะยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบที่สมดุล 2) ค่าการกลั่น 1Q24 จะยังมีโอกาสยืนสูงจากความต้องการน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น จะหนุนกำไร 1Q24 เร่งตัว 3) มีโอกาสที่ SBM2 จะกลับมาใช้งานได้ปกติภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งน้ำมันเลดลงราว US$1/บาร์เรล 4) โครงการ CFP คืบหน้าแล้ว 95% คาดเปิดสิ้นปีนี้จะหนุนค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นอีก US$4-5/บาร์เรล กำลังกลั่นจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 275k เป็น 400k บาร์เรล/วัน ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) MSCI Rebalance รอบเดือน ก.พ. ดัชนี Global Standard หุ้นเข้าไม่มี หุ้นออก BANPU BJC OSP ดัชนี Small Cap หุ้นเข้า BANPU OSP GLOBAL SKY TISCO หุ้นออก BEC SUPER มีผลราคาปิดวันที่ 29 ก.พ. 24

(0) ตลาดดาวโจนส์ ตลาดปิดทำการเนื่องในวัน President’s Day

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ แต่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสและเยอรมนีชะลอความแรงลง หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถ่วงตลาดลง

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดทรงตัว ขณะที่นักลงทุนจับตามองทิศทางอัตราดอกเบี้ยของจีน

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.05%

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ตลาดปิดทำการเนื่องในวัน President’s Day ในขณะที่เช้านี้ปรับลงอยู่ที่ระดับ 79.13 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.08%

(0) ราคาทองคำ COMEX ตลาดปิดทำการเนื่องในวัน President’s Day ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2,027.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.15%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 837.89/ –

- Advertisement -