บล.บัวหลวง:

Pruksa Holding (PSH TB / PSH.BK)

PSH – แนะนำขาย! เนื่องจากการเคลียร์โครงการเหลือพร้อมขาย

ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมาก

PSH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 123 ล้านบาท ลดลง 89% และ 69% QoQ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 61 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 62 ล้านบาท ลดลงอย่างมาก 95% YoY และ 82% QoQ ผลประกอบการ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมาก PSH ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2566 ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงิน ปันผลที่ 5.3% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 ก.พ. และจ่ายปันผลในวันที่ 24 พ.ค.)

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากโครงการเหลือพร้อมขาย ซึ่งกดดันอัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 76% โครงการคอนโด 24%) ลดลง 46% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท ลดลง 16% YOY แต่เพิ่มขึ้น 8%QoQ ยอดขายโครงการคอนโดอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 75% YoY และ 15% Q0Q อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 27.8% ลดลง 610bps YoY และ 270bps QoQ PSH ยังคงเน้นการขายห้องพร้อมอยู่โดยใช้กลยุทธ์การกำหนดราคา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และส่งผลให้อัตรากำไรลดลง

รายได้ธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 494 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY และ 4% QoQ รายได้จากโรงพยาบาลวิมุตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.4 และ 49.8 ของรายได้จากโรงพยาบาลทั้งหมด หนุนจากจำนวนผู้ป่วยนอกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปีสำหรับบริการตรวจสุขภาพประจำปีจากลูกค้าองค์กรและประชาชน ทั่วไป อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 27.2% เพิ่มขึ้น 980bps YoY และ 340bps QoQ เนื่องจากรายได้ที่ลดลง อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอยู่ในระดับต่ำที่ 0.36 เท่า ณ สิ้นปี 2566

แนวโน้ม

PSH มีแผนเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์ 17 โครงการ มูลค่า 1.18 หมื่นล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่า 1.32 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโด 3 โครงการ มูลค่า 4 พันล้านบาท รวม 30 โครงการ มูลค่ารวม 2.9หมื่นล้านบาท ในปี 2567 บริษัทจะยังคงดำเนินกลยุทธ์ในการเร่งการขายโครงการเหลือระดับกลางถึงระดับล่าง เนื่องจากช่วงราคานี้มีอัตราการปฏิเสธจากธนาคารสูง เป้าหมายปี 2567 คือการลดสัดส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท/ยูนิต ให้เหลือน้อยกว่า 40% บริษัทตั้งเป้ายอดจองซื้อ ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายยอดโอนโครงการที่ 2.55 หมื่นล้านบาท

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 1/67 จะลดลง YoY และ QoQ ยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ PSH ยังคงเคลียร์โครงการเหลือพร้อมขาย ดังนั้นเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในไตรมาส 1/67 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YOY แต่จะลดลง QoQ (รายได้ที่สูงขึ้น)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดกำไรหลักปี 2567 ลง 17% เหลือ 1.4 พันล้านบาท (ลดลง 7% YoY) เพื่อสะท้อนการปรับลดราคาโครงการคอนโดเหลือพร้อมขายอย่างต่อเนื่อง

คำแนะนำ

เรามีความคาดหวังต่ำต่อ PSH ในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและการขายเคลียร์โครงการเหลือพร้อมขายของบริษัท เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ที่ 9.5 บาท หุ้นซื้อขาย ที่ PER ปี 2567 ที่ 18.7 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2549-2564 ที่ 9.5 เท่าอยู่ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) เราแนะนำให้นักลงทุนขายเนื่องจากราคาหุ้นมีมูลค่าสูงเกินไปที่ 71% สูงกว่า PER ระยะยาว (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่มากกว่า 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

- Advertisement -