เส้นทางฟื้นตัวของท่องเที่ยว / 1,370- 1,390

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ขึ้นก่อน และอ่อนตัวลง: แรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากแต่ถูกจำกัดด้วยความกังวลอุปสงค์น้ำมันและการปิดความเสี่ยงก่อนที่จะมีการเผยรายงานการประชุม FOMC ทั้งนี้ภาพการท่องที่ยวของไทยยังคงอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัว โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 18ก.พ.67 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 5.22 ล้านคน เพิ่มขึ้น 49%y-y และหากมองไปข้างหน้าการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการที่ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณปี 66 ไปพลางก่อน ในงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน วงเงิน 104 ลบ. เพื่อดำเนินโครงการมหาสงกรานต์ World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ปี 67 ในระหว่าง วันที่ 11-15 เม.ย. 67 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยก.ท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานประมาณ 2 แสนคน สร้างรายได้มูลค่า 3,125 ลบ. นอกจากนี้ จากการที่กรมอุตุฯคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของไทยปี 67 โดยคาดว่าจะเริ่มประมาณต้นสัปด้าห์ที่ 4 ของเดือนก.พ.นี้ คาดเป็นแรงหนุนต่อการบริโภคเครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า และเกี่ยวเนื่อง อย่างไรก็ดี มองทางขึ้นจำกัดจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งคาดจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 1.28% ปิดที่ $78.18 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางกังวลเกี่ยวกับอปสงค์น้ำมันที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง หลัง IEA เผยรายงานประจำเดือนก.พ. โดยระบุว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะขยายตัวเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 67 ซึ่งลดลงเกือบ 50% จากที่มีการขยายตัว 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 66 นอกจากนี้ คาดมีแรงขายปิดความเสี่ยงก่อนที่จะมีการเผยรายงานการประชม FOMC เดือนม.ค. ในวันคืนนี้ รวมถึงผลประกอบการของ NVIDIA สอดรับตลาดสหรัฐฯที่ปิดในแดนลบเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสะท้อนว่านักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงลดลง
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, CENTEL, CPALL, CPAXT, GLOBAL, DOHOME, ICHI, MINT, OR 2) เก็งงบ 4Q66: AMATA, BDMS, BEM, ONEE. SC SISB 3) Dividend Play: KTB, SAT. SCB, SPALI, TISCO และ 4) Anti-comm: GPSC, GULF

ปัจจัยบวก

  • ครม.มีมติขยายวีซ่าฟรีคาซัคสถานไปอีก 6 เดือนจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 67 เพราะถือว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่เข้ามาแล้วจับจ่ายใช้สอยได้ดี ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย
  • ครม.เห็นชอบให้ประกาศราคาอ้อยขั้นต้นตันละ 1,420 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากเทียบกับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตที่แล้วแค่ต้นละ 1,080 บาท สูงกว่าปีที่แล้วตันละ 340 บาท หรือคิดเป็น 31.40%
  • ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 6.5 หมื่นบาท
  • หุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารที่มีการจ่ายปันผลคิดเป็น Dividend yield สูงมีแนวโน้มคึกคักในวันนี้ หลัง SCB ประกาศจ่ายปันผลปี 66 สูงถึง 10.34 บาท/หุ้น โดยคิดเป็นส่วนของ 2H66 ที่ 7.84 บาท/หุ้น และคิดเป็น Dividend yield ที่ 7.5%

ปัจจัยลบ

  • KResearch คาดการณ์ศก.ไทยปี 67 เติบโต 2.6% ปรับลดจาก 3.1% ที่ประเมินก่อนหน้า จากโมเมนตัมในการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ชะลอตัว ความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณปี 67 และปัจจัยภายนอกประเทศยังมีอีกหลายความเสี่ยง ขณะที่ Krungsri Research เตรียมปรับลดประมาณการศ.ปีนี้ลงสู่ระดับต่ำกว่า 3.0% จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4%
  • SCB EIC ม้องภาพรวมในปี 67ศก.ไทยยังน่าห่วงและฟื้นตัวได้ช้า โดยปัจจัยสำคัญกดดันให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าในปีนี้ มาจากการลงทุนของภาครัฐที่มีแนวโน้มหดตัวตามความล่าช้าในการประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 67
  • ตลท.เผย 50 บจ.เสี่ยงถูกขึ้นเครื่องหมาย CB หรือฐานการเงินเลวร้ายเช่น Equity น้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี ผิดนัดหุ้นกู้ ฯลฯ

PICKS OF THE DAY

CPALL BUY

  • เป้าหมาย 59.00 / 61.00 แนวรับ 55.50
  • คาดงบดี เติบโตต่อ: คาดกำไรงวด 4Q66 ที่ 4.57 พันลบ. โดยเติบโต +5.7%q-q,+26.0%y-y และกำไรปี 66 ที่ 1.73 หมื่นลบ. (+8%y-y) สำหรับปี 67 คาดกำไรเติบโตต่อตาม ศก.ที่ฟื้น รวมทั้งได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้น ศก. มองกำไรปี 67 ที่ 2.06 หมื่นลบ. (+19%y-y)
  • ได้ประโยชน์จาก ครม.เคาะหยุดสงกรานต์: ทางฝ่ายมองได้ Sentiment จาก 1) มี.ค. เริ่มฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน 2)ครม. มีมติเห็นชอบเพิ่มวันหยุดสงกรานต์รวมเป็น 5 วัน สอดคล้องกับกรมอุตินิยมวิทยาได้ประกาศว่าไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนปี67 ในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ก.พ. นี้ ซึ่งในปีนี้จะร้อนกว่าค่าปกติ 1-2 องศา ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยหนุนความต้องการสินค้าใน 7-11 โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มให้มีมากขึ้น

SC BUY

  • เป้าหมาย 3.50 / 3.60 แนวรับ 3.30
  • คาด 4Q66 ฟื้นตัว q-q ได้ดี: คาด 4Q66 ยังมี Backlog อยู่เยอะ ณ สิ้นไตรมาส 3Q66 มีแนวราบอยู่ราว 6.9 พันลบ. ส่วนแนวสูงยังมี scope-หลังสวน มีอยู่กว่า 1.35 พันลบ. ยังสามารถเร่งโอนได้ทั้งแนวราบและแนวสูง คาดกำไร 4Q66 ฟื้นตัวดีขึ้น y-y และจะเป็นไตรมาสที่สูงสุดในปี คาดจ่ายปันผลในช่วง 2H66 อีก 0.15 บาท ได้ Div. yield 4.4%
  • เน้นกระจายความเสี่ยงหลบอุตฯอสังหาที่ยังอ่อนตัว: ขณะที่โครงการปี 67 เน้นเปิดโครงการในระดับราคาที่สูงขึ้นเพื่อหนี rejected rate และกระจายความเสี่ยงไปลงทุนโรงแรมและคลังสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถทำ EBIDA ได้ดีกว่าธุรกิจอสังหาฯ คาดธุรกิจนี้มีสัดส่วนรายได้ในปี 67 อยู่ที่ 5% ของรายได้รวม แต่สามารถสร้างสัดส่วนได้ถึง 16%ของ EBIDA
- Advertisement -