Daily Focus

ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index แกว่งตัว Sideways โดยบวกได้ในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขาย ก่อนที่จะย้อนลงมาปิดลบเล็กน้อย 2.67 จุด ณ สิ้นวัน โดยตลาดตอบรับความคาดหวังเชิงบวกจากแผนเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. ไปมากพอสมควร สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 2.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิ 1.2 พันลบ. (แต่ Short Index Futures 5.2 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideways Up ในกรอบ 1,635 1,650 จุด โดยกลุ่มพลังงานคาดปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง หลังราคานั้นดิบกลับมาไต่ระดับขึ้น หลังซาอุฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องสหรัฐฯให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ขณะที่โฟกัสของตลาดในปัจจุบันคาดอยู่ที่ผลประกอบการ 3Q21 ซึ่งสำหรับไทยโดยรวมไม่สดใสเนื่องจากอยู่ในช่วง Lockdown แต่จะเริ่มดีขึ้นใน 4Q21 สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้ ส่วนสัปดาห์หน้าคาดตลาดยังมีโอกาสผันผวนจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนและอังกฤษ  กลยุทธ์ยังเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Value และ Reopening Play ได้แก่ กลุ่มธนาคาร พลังงาน/โรงกลั่น ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว รับเหมาฯ ล้อไปกับเทรนด์เงินเฟ้อและได้อานิสงส์บวกโดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 4Q21-2022 ของทั้งไทยและโลก

กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้น Value Play และหุ้นเปิดเมือง

หุ้นเด่นเดือน ต.ค.: CFRESH, CK, KBANK, KCE, ORI

หุ้นเด่นวันนี้: SYNEX

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2022 เบื้องต้น 31 บาท
  • เบื้องต้นคาดกําไร 3Q21 ยังเติบโตได้แข็งแกร่ง Y-Y ทั้งจากรายได้ และ Margin โดยสินค้า IT ยังเป็นสินค้าจําเป็น ขณะที่ 4Q21 จะเร่งตัวอย่างมีนัยยะจาก High Season และยอดจอง iPhone 13 ที่แข็งแรง
  • เราคาดกำไรปี 2021-2022 +22% Y-Y และ +29% Y-Y ตามลำดับ เติบโตตามเทรนด์ Digital และเน้นกลยุทธ์เพิ่มสินค้า House Brand หนุน Margin รวมถึงเตรียมรุกตลาดสินค้า IT มือสอง SWOPMART โดย JV กับ SCB 10X
  • แนวรับ 23-23.50 // 24 บาท แนวต้าน 25 // 26 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$ 151 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$ 196 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$ 167 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้านําโดยอินโดนีเซีย US$ 112 ล้าน ส่วนไทยไหลเข้า US$ 35 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ส่วน Dollar Index ทรงตัวหลังอ่อนค่าเร็วในช่วงก่อนหน้า

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ศบค. คลาย Lockdown เพิ่ม โดยลดพื้นที่จังหวัดสีแดงลงเหลือ 23 จังหวัด (เดิม 29 จังหวัด) และปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่ม-ตี 3 อย่างน้อย 16 ต.ค. -31 ต.ค. และให้ร้านสะดวกซื้อร้านอาหารห้างฯ เปิดบริการได้ถึง 4 ทุ่ม เราคาดว่าศบค. จะยกเลิกเคอร์ฟิวในเดือน พ.ย. เพื่อรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รวมถึงขยายจำนวนคนในการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเป็นบวกต่อ CPALL CPN CRC HMPRO MAJOR BEM M ZEN AU OISHI กลุ่มท่องเที่ยวชอบ MINT SHR VRANDA SPA

(+) CPALL คาดกำไร 3Q21 -10%Q-Q, -52%Y-Y ถูกกระทบจาก Full Lockdown ทำให้ SSSG คาด -10%Y-Y อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ฟื้นตัวได้เร็วใน 4Q21 ตามการผ่อนคลายมาตรการและเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้น ส่วนดีลปรับโครงสร้าง MAKRO-Lotus’s เป็นบวกระยะยาว และทำให้ฐานะการเงินผ่อนคลายขึ้น เราปรับเพิ่มกำไรปี 2021-2022 เป็น -35%Y-Y และ +66%Y-Y ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 82 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) CBG คาดกำไร 3Q21 อ่อนแอ -32%Q-Q และ Y-Y จากการ Lockdown ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ทั้งไทยและ CLMV รวมถึงถูกกดดันจากต้นทุนอลูมิเนียมแพง ขณะที่แนวโน้ม 4Q21 จะเริ่มทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ล่าสุด CBG ปรับสูตรน้ำตาลลง ซึ่งช่วยลดภาษีและชดเชยต้นทุน Commodity สูงได้บางส่วน เราปรับกำไรปี 2021-2022 ลงเป็น -8%Y-Y และ +22%Y-Y อย่างไรก็ตาม มองกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้วขณะที่ปี 2022 มีแรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ผสม CBD ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 164 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) DOHOME คาดกำไร 3Q21 -44%Q-Q, +78%Y-Y ต่ำกว่าที่เคยประเมินจากการปิดสาขาตามการ Lockdown และค่าใช้จ่ายเร่งตัวขึ้นจากวัคซีนและโบนัสพิเศษสำหรับพนักงาน และมองจะเป็นจุดต่ำสุดของปีโดยคาด 4Q21 ทยอยฟื้นตัวหลังกลับมาเปิดบริการครบทุกสาขา ส่วนระยะยาวยังมองบวกจากแผนการขยายสาขาอย่างน้อยปีละ 5 สาขา ควบคู่กับการเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand เราคงประมาณการกำไรปี 2021 +157%Y-Y และปี 2022 +6%Y-Y และคงราคาเป้าหมาย 29 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 534.75 จุดหรือ 1.56% ปิดที่ 34,912.56 จุด หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อาทิ มอร์แกน สแตนลีย์ และแบงก์ออฟอเมริกา รวมถึงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐลดลง 36,000 ราย เป็น 293,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 318,000 ราย

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ รวมถึงตลาดโตเกียวที่หุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์

(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 87 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเจ้าชายอับดูลาซิสบินซัลมานรัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหรัฐที่ต้องการให้กลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์หรือ 0.18% ปิดที่ 1,797.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 982.72 / +-

- Advertisement -