บล.ฟิลลิป:

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ – ORI

คาด 4Q66 กำไรอ่อนตัว

Key Point

คาด 4Q66 รายได้อ่อนตัวตามภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมีค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายและค่าโบนัสที่เข้ามาทำให้กำไรสุทธิอ่อนตัว y-y และ q-q ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 66 อ่อนตัว -11.9%y-y ภาพตลาดที่อ่อนตัวอาจทำให้ระดับสต๊อกเพิ่มสูงขึ้นคาดว่าปี 67 อาจเห็นการเปิดโครงการที่ลดลงทั้งแนวราบและแนวสูง และยังมองว่าผลประกอบการปี 67 ทรงตัว y-y ต้องรอภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว

คาดแนวราบอ่อนตัว

คาด BRI จะมีกำไรสุทธิใน 4Q66 ลดลงกว่าทุกไตรมาส ด้วย backlog ยกมาที่ลดลง และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ภาพตลาดยังคงมี rejected อยู่ในระดับสูง มองว่า Presale ที่ทำได้ดีในช่วง 4Q66 จะเข้ามาเป็น Backlog ที่จะรอโอนในปีนี้

คาด 4Q66 กำไรสุทธิอ่อนตัว y-y และ q-q

ส่วน ORI คาด 4Q66 มียอดโอนรวม JV ราว 4.8 พันลบ. ซึ่งหลักคาดว่ามาจาก JV ที่มีคอนโดครบกำหนดโอน 2 โครงการเข้ามาช่วยทำให้ไตรมาสนี้มีส่วนแบ่งกำไรเติบโต y-y และ q-q ได้ดี รายได้โอนราว 1.8 พันลบ. ไตรมาสนี้ร่วมทุน 6 โครงการ โดยเป็น Premium 2 โครงการใหญ่ทำให้มีกำไรจากการขายที่ดินเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยจำนวนโครงการร่วมทุนลดลงกว่าไตรมาสอื่นๆ ในปี ทำให้รายได้ค่าบริหารโครงการอ่อนตัวกว่าทุกไตรมาสตามกัน แม้รายธุรกิจโรงแรมจะดีขึ้นมากจากเป็นช่วง seasonal แต่ยังมีสัดส่วนรายได้ที่เล็กอยู่ ไม่สามารถชดเชยได้ ทำให้รายได้รวม 3,614 ลบ. อ่อนตัว y-y และ q-q ทำ GPM 32.8% กลับมาอยู่ในระดับปกติ แต่ด้วย SG&A ที่สูงขึ้นจากค่าส่งเสริมการขายและตั้งโบนัสพนักงาน ทำให้มีกำไรสุทธิ 653.6 ลบ. 36.7%y-y -34.7%q-q ทำให้คาดกำไรสุทธิทั้งปี 66 ที่ 3,325.0 ลบ. -11.9%y-y

คาดเปิดตัวโครงการปีนี้ลดลงตามภาพอุตสาหกรรม

ปี 67 คาดเปิดตัว 34 โครงการรวม 3.7 หมื่นลบ. แบ่งเป็นแนวสูง 14 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นลบ. (อ้างอิง efinance) แนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นลบ. (อ้างอิง อินโฟเควสท์) แม้ทาง ORI ยังไม่ได้มีประกาศแผนธุรกิจอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าอาจเปิดโครงการลดลง y-y จากภาพการขายใน 4Q66 ที่ออกมาอ่อนตัว ทำให้คาดว่าจะมีระดับสต๊อกที่สูงขึ้นเป็นไปตามภาพอุตสาหกรรม ทางฝ่ายฯผลประกอบการยังทรงตัว y-y จากปีนี้จะมีโครงการคอนโดครบกำหนดโอนมูลค่ารวมกว่า 1.8 หมื่นลบ. มากกว่าปีก่อน แต่ไม่มีรายการ Token real X เข้ามาเสริมรายได้เหมือนปีก่อน

ราคาพื้นฐาน 9.85 บาท/หุ้น อิงวิธี SOTP

ทางฝ่ายๆปรับ PE ให้เป็นปัจจุบันมากขึ้นที่ 6.70 เท่า ปรับราคาพื้นฐานลงที่ 9.85 บาท แนะนำปี 67 ยังสามารถลงทุนได้ แต่ควรรอติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ก่อน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -