บล.ฟิลลิป:
AMANAH: 4Q66 กำไรลดลง y-y แต่เพิ่ม q-q
ทยอยซื้อ ТР’67: 2.28
กำไร 4Q66 ลดลง y-y จากต้นทุนดอกเบี้ย การตั้งสำรอง และผลขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นได้ ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะหดตัวต่อเนื่องก็ตาม NPL เพิ่มสูงขึ้นต่ออัตราการเพิ่มลดลง ทำให้การตั้งสำรองลดลงจากไตรมาสก่อน แต่คาดปี 67 การตั้งสำรองจะยังไม่กลับมาปกติ จึงปรับลดประมาณการกำไรลง และปรับราคาพื้นฐานเหลือ 2.28 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”
งบรวม | 4Q66 | 3Q66 | 4Q65 | % y-y | % q-q | 2566 | 2565 | % y-y |
กำไร | 58 | 53 | 93 | -37.2 | 9.0 | 189 | 310 | -39.0 |
EPS | 0.06 | 0.05 | 0.09 | -37.2 | 9.0 | 0.18 | 0.30 | -39.0 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 4Q66 กำไร ลดลง y-y แต่ยังเพิ่ม q-q : 4Q66 กำไร 58 ลบ. ลดลง 37.2% y-y จากต้นทุนดอกเบี้ยการตั้งสำรอง และผลขาดทนจากการขายทรัพย์สินรอขายที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ยังเพิ่มขึ้น 9% q-q จากรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และมีการตั้งสำรองลดลง
- กำไรปี 66 ลดลงมาก 39% y-y: ปี 66 AMANAH มีกำไร 189 ลบ. ลดลงถึง 39% y-y ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะหดตัวลง แต่รายได้ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นได้ แต่ต้นทุนดอกเบี้ยการตั้งสำรอง และผลขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอขายทำให้กำไรลดต่ำลง
- สินเชื่อหด NPL เพิ่มขึ้น ปรับลดประมาณการกำไรปี 67: สินเชื่อ 4Q66 หดตัวลงอีก 4.5% q-q และทำให้ทั้งปี AMANAH มีสินเชื่อหดตัวถึง 13.8% ในขณะที่ NPL ยังเพิ่มสูงขึ้นด้วยเป็น 5.78% จาก 5.69% ในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของ NPL ใน 4Q66 นั้นลดลงจากไตรมาสก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ AMANAH มีการลดระดับการตั้งสำรองลง อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายมองว่าการตั้งสำรองจะยังสูงกว่าระดับปกติต่อไปในปี 67 ทำให้ปรับลดประมาณการกำโรลงเหลือ 297 ลบ. จากเดิมคาดไว้ที่ 355 ลบ. ปรับราคาพื้นฐานเหลือ 2.28 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”