รุกฆาตตลาดหุ้น 

Trading Range: ไปไหนไม่ไกล 1630-1650

PICKS OF THE DAY

SAT BUY

  • คาดยอดผลิตรถยนต์ฟื้น: คาดการณ์ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ย. 64 มีโอกาสฟื้น m-m ดีขึ้นต่อในช่วงที่เหลือของปี หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย
  • 3Q64 คาดกำไรโต y-y: แม้กำไร 3Q64 คาดอ่อนตัว q-q ตามยอดผลิตที่ลดลง หากแต่เติบโตเด่น y-y ซึ่งเติบโตตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก บวกกับมีออเดอร์จากต่างประเทศและเครื่องจักรกลการเกษตรช่วยหนุน

KTB BUY

  • สินเชื่อโตเด่นสุดในกลุ่ม: ณ สิ้นเดือน ส.ค. KTB เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยโตถึง 9.3% YTD ในขณะที่ค่าเฉลี่ยการเติบโตของสินเชื่อของกลุ่มธนาคารอยู่ที่เพียง 3.3% YTD เท่านั้น
  • ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐ: คาดว่ารัฐจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้สินเชื่อของ KTB เติบโตต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ไปไหนไม่ไกล: เช้านี้คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1630-1650 จุด ภาพรวมมองยังขึ้นต่อได้ แต่อาจไปได้ไม่ไกล เนื่องจากระยะสั้น Upside เริ่มจำกัด หลังตอบรับประเด็นการเปิดประเทศ 1พ.ย.64 ไปมากแล้ว คาดว่าหลังจากนี้ต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายจากภาครัฐเข้าหนุนการฟื้นตัว จึงจะมีโอกาสเห็น SET Index กลับไปทดสอบแนวต้านใหญ่บริเวณ 1670 จุด สัปดาห์นี้รอติดตาม 1) การประกาศตัวเลข GDP 3Q64 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน 2) การประกาศตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทยเดือน ก.ย. 64 และ 3) การประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร
  • กลยุทธ์การลงทุน: ทางฝ่ายยังมองหุ้นกลุ่มเปิดเมืองน่าสนใจ แต่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว จึงควรรอซื้อเมื่อราคาย่อตัว รอเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี และทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Value Play ตามการฟื้นตัวในปีหน้า
  • ตัวเลขเศรษฐกิจจีน: เช้านี้ติดตามการประกาศตัวเลข GDP 3Q64 ของจีน คาดออกมาขยายตัว 5.2% y-y ลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนที่โต 7.9% y-y ด้วยเผชิญปัญหาน้ำท่วมในภาคกลางและปัญหาพลังงานขาดแคลน ทำให้ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมสะดุดตัวลง รวมถึงปัญหาสภาพคล่องจากบริษัทอสังหาฯ Evergrande ที่สุดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจลง แม้ว่าล่าสุดธนาคารกลางจีนจะประกาศว่าสามารถควบคุมความเสี่ยงในครั้งนี้ได้แล้ว แล้วจะไม่ลุกลามตามที่หลายฝ่ายกังวล และออกกฎคุมเข้มกิจการต่างๆ คาดว่าจะส่งผลทานตัวเลข GDP ในครั้งนี้ที่ต้องติดตามต่อไปว่าจีนจะผ่อนคลายการคุมเข้มลง เพื่อฟื้นเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 หรือไม่
  • ระวังเงินบาทผันผวน: เงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพลิกแข็งค่าที่สุดในเอเชีย ตอบรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 ดัน Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยกว่า 9.4 พันล้านบาท แต่ต้องระวังเนื่องจากเข้าใกล้การประชุม FOMC ครั้งที่ 7 ในเดือ พ.ย. 64 ที่คาดว่า Fed จะประกาศทำ QE Tapering อย่างเป็นทางการ แม้ว่าทางฝ่ายประเมินผลกระทบครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่ากับปี 56 แต่อาจทำให้ Fund Flow ไหลออกบางส่วนจนเงิบบาทพลิกอ่อนค่าอีกครั้งได้
  • ติดตาม ETF คริปโต: บริษัท Pro Shares ยื่นขอ กลต.สหรัฐจดทะเบียนกองทุน ETF Bitcoin ซึ่งจะเทรดสัญ ญาซื้อขายล่วงหน้าของ Bitcoin ทั้งนี้หาก กลต.สหรัฐอนุมัติซื้อขายภายในสัปดาห์นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่คริป โตให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น จึงอาจเป็นสินทรัพย์ที่ Fund Flow ไหลไปเข้าในภาวะเงินเฟ้อสูง และธนาคารกลางเริ่มใช้นโยบายแบบเข้มงวด
- Advertisement -