TGE มั่นใจผลงานปี 67 สดใสต่อเนื่อง ลุยประมูลโรงไฟฟ้า – รุกขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ปักธงขึ้นสู่ผู้นำโรงไฟฟ้าชีวมวลและขยะชุมชนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
TGE มั่นใจผลงานปี 67 สดใสต่อเนื่อง เดินหน้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มหนุนกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมแตะ 96 เมกะวัตต์ รุกขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีความชำนาญ ลุยตลาดคาร์บอนเครดิต เดินหน้าเจรจาร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ฟากบิ๊กบอส “พงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล” ระบุปีนี้เน้นบริหารงานเชิงรุก พร้อมตั้ง “สืบตระกูล บินเทพ” นั่งเก้าอี้ซีอีโอ ร่วมผลักดันเป้าหมายขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าประเภทชีวมวลและขยะชุมชนของไทย
นายสืบตระกูล บินเทพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยในกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน หรือ Opportunity Day ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 911.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 240 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33.9%
โดยประเมินว่า ในปี 2567 รายได้หลักของกลุ่มบริษัท TGE ยังคงมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายไฟฟ้า ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่ารายได้ประเภทอื่น ควบคู่ไปกับการบริหารการจัดซื้อวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลง รวมถึงมีรายได้เพิ่มเติมจากการรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานโดยรวมปรับเพิ่มขึ้น และคาดว่าปีนี้จะได้รับสัมปทานเพิ่มเติมส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งโดยรวมกว่า 96 เมกะวัตต์ รวมทั้งมีแผนรุกเข้าสู่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า และรุกตลาดคาร์บอนเครดิต เพื่อรองรับความต้องการคาร์บอนเครดิตที่มีแนวโน้มมากขึ้นในอนาคต รวมถึงเดินหน้าเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบันกลุ่มบริษัท TGE มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมอยู่ที่ 76.6 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โครงการ ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ใน อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากขยะชุมชน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 39.9 เมกะวัตต์ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว, จังหวัดชุมพร, จังหวัดราชบุรี, จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปลายปี 2568 รวมทั้งมีธุรกิจรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาให้สิทธิเอกชนดำเนินโครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในเร็วๆ นี้
“ปี 2567 บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนเพิ่มเติม และได้เริ่มบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีแผนเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องโดยเน้นด้านพลังงานสะอาด และสามารถช่วยต่อยอดธุรกิจ สนับสนุนอนาคตให้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 200 เมกะวัตต์ ในปี 2575” นายสืบตระกูล กล่าว