SET จะบวกกี่โมง? / 1,360-1,370
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET เสี่ยงลงต่อ: ทางฝ่ายยังมีมุมมองลบ ต่อดัชนี SET จากหลายปัจจัยกดดัน แม้มีปัจจัยบวกแต่หวังเพียงพยุงตลาดได้บ้าง โดยปัจจัยลบ ได้แก่ 1) หลังเผยงบงวด 4Q66 และงบปี 66 พบว่า EPS ปรับตัวลดลงจาก 95.12 สู่ระดับ 94.11 สะท้อนภาพรวมผลประกอบการบจ.ส่วนใหญ่ในเชิงลบ 2) ดัชนี SET ต้นสัปดาห์อาจถุกกดดันจากดัชนี CPI ของไทย ที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้โดยมองจะยังอยู่ในแดนลบ และ 3) ศูนย์วิจัยกสิกรฯเผยการลงทุนทางตรง (FDI) ในช่วง 6 ปี (2018-3Q23) FDI ไหลเข้าสุทธิมาที่ไทยลดลง 20.3% แต่ขณะที่เวียดนามและอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 44.1% และ 21.4% ตามลำดับ ทำให้มองเป็นความเสี่ยงด้าน ความหวังการลงทุนทางตรง (FDI) จากต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายมองไทยยังมีเสน่ห์ดึงดูดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และหากได้ภาครัฐลดขั้นตอน, สร้าง facility สำหรับผู้ผลิต จะช่วยส่งเสริมการลงทุนทางตรงให้เติบโตได้ นอกจากนี้ปัจจัยบวกที่หวังพยุงดัชนียังมีจาก 1) แรงเก็งกำไรหันก่อนจ่ายเงินปันผล โดยในสัปดาห์นี้ มีหุ้น Big Cap ขึ้น XD ได้แก่ BDMS, BCP และ DELTA และเก็งกำไรหุ้นจากวิสัยทัศน์ผู้บริหารในงาน Oppday นำโดย CPALL, CRC, BEM และ WHA เป็นต้น 2) กลุ่มพลังงานมองเป็นกลุ่มนำดัชนี จาก OPEC+ มีมติขยายเวลาลดกำลังผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันถึงสิ้นงวด 2Q67 ทำให้เช้านี้ ราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัวทดสอบระดับ $80 ต่อบาร์เรล และ 3) นโยบายฟรีวีซ่าที่ภาครัฐทยอยให้แก่หลายประเทศ รวมทั้งเริ่มเข้าสู่ช่วงปิดเทอม คาดจะช่วยหนุนภาพท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย สำหรับสัปดาห์นี้ติดตาม จีนเผยดัชนี Caixin PMI, ถ้อยแถลงประธานเฟดต่อคองเกรส Super Tuesday และ GDP กลุ่มยูโรโซน
กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว+Spending: AOT, BA, CPN, CRC, MINT 2) Dividend: BCP, KBANK, KKP, KTB, TISC0, SIRI 3) 1Q คาดงบดี: ADVANC, BGRIM, CPALL, CPAXT, ICHI, NER, SAPPE, SISB 4) Selective: CK, PTTGC
ปัจจัยบวก
- CNBC รายงานว่า ก.พาณิชย์จีนได้จัดประชุมร่วมกับกลุ่มธุรกิจต่างชาติ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับต่างชาติ เพื่อสร้างเสถียรภาพ โดยมี 24 มาตรการส่งเสริมธุรกิจต่างชาติ มองเป็นสัญญาณบวกต่อการแก้ปัญหาและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจีน
- กระทรวงเคหะฯจีน ระบุว่า ธ.พาณิชย์จีนได้อนุมัติวงเงินกู้กว่า 2 แสนล้านหยวน (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในโครงการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ประสบปัญหา ซึ่งปัจจุบัน China Real Estate รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่จาก 100 บ.ที่ใหญ่สุดของจีนเดือน ก.พ. มียอดขายลดลงกว่า 60%y-y
- Jeff Clarke ประธาน จนท.ปฏิบัติการ Dell กล่าวว่า สินค้ากลุ่มเซิร์ฟเวอร์สำหรับ AI เติบโตแข็งแรง โดยมีคำสังซื้อเพิ่มเกือบ 40%Q-Q และมี Backlog เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากความต้องการ AI ที่มากขึ้น
ปัจจัยลบ
- คณะบริหารปธน.ไบเดนสหรัฐ เตรียมตรวจสอบรถยนต์อัจฉริยะจากจีนในเรื่องความมั่นคงของชาติ ซึ่งอาจถูกสอดแนมข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้งานชาวอเมริกัน การตรวจสอบดังกล่าวอาจนำไปสู่มาตรการใหม่ในการป้องกันจีนจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อน และเป็นสงครามการค้า
- สำนักงานสถิติยุโรปเปิดเผยว่า เศรษฐกิจยุโรป 4Q66 เติบโตได้เพียง 0.1% แม้ว่าจะรอดพ้นจากสภาวะทดถอยทางเทคนิค แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคาดว่ายุโรปจะยังเผชิญกับปัญหาดอกเบี้ยระดับสูง และ CNBC รายงานว่าบริษัทกว่าครึ่งของยุโรปเผยงบการเงินล่าสุดต่ำกว่าคาด
- S&PGlobal เผยดัชนี PMIภาคการผลิตยูโรโซนปรับตัวลดลงจากเดือนม.ค. ที่ 46.6 จุด สู่เดือน ก.พ. ที่ 46.5 จุด
- กลุ่มยานยนต์เผชิญการแข่งขันด้านราคารุนแรงทั้งรถ BEV รวมถึงรถสันดาป ทางฝายมองเป็นปัจจัยลบต่อภาคธุรกิจพาร์ทชิ้นส่วนเกี่ยวข้อง
PICKS OF THE DAY
AOT BUY
- เป้าหมาย 67.50 / 69.00 แนวรับ 64.50
- นักท่องเที่ยวยังฟื้นตัวดีหนุนกำไร: นทท. ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย 1 ม.ค. – 25 ก.พ. เข้ามาแล้ว 5.98 ล.คน +48% y-y และคิดเป็น 74% ของ 4Q66 โดย นทท.จีนมาอันดับ 1 ที่ 1.11 ล.คน ตามด้วยมาเลเซีย และรัสเซีย และมีแนวโน้มดีจากยกเว้นวีซ่าจีนและคาซัคสถาน คาด กำไรของ AOT จะโตได้ทั้ง y-y, q-q
- ได้ประโยขน์จากมาตรการรัฐบาล: การทำข้อตกลงฟรีวีซ่าถาวรจีน-ไทยเริ่ม 1 มี.ค. และขยายฟรีวีซ่าคาซัคสถานอีก 6 เดือน ถึง 31 ส.ค. ทำให้แนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาของอินเดียและไต้หวันมีสูง รวมถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะดันให้ไทยเป็น Hub การบินโลก มอง AOT จะได้การสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนาขีดความสามารถของสนามบินต่างๆ รวมถึงการรับโอนสนามบินเพิ่ม
BGRIM BUY
- เป้าหมาย 27.75 / 28.50 แนวรับ 26.00
- 1Q67 หนุนจากค่าไฟ: คาดกำไร 1Q67 จะได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าไฟ Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.67 เป็น 39.72 สตางค์ จากเดิม 20.48 สตางค์ คิดเป็น upside ต่อกำไร 1Q67 ประมาณ 100 ลบ. นอกจากนี้ คาดปริมาณขายไฟให้ลูกค้าอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นมาปกติ หลังจากช่วงปลายปีที่กลุ่มโรงงานมีการปิดซ่อมบำรุง
- แนวโน้มราคาก๊าซลดลง: ราคาก๊าซ JKM ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 10 USD/mmbtu นอกจากนี้คาดจากปริมาณก๊าซจากแหล่งเอราวัณจะปรับเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. 67 ทำให้คาดต้นทุน Pool Gas จะลดลง ช่วยหนุนการฟื้นตัวของกำไรในปี 67