SVR เล็งเปิดอาณาจักร 6 โปรเจกต์ใหม่ มูลค่ารวม 4,632 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปี 67 โตไม่ต่ำกว่า 35-50% สู่ระดับ High Growth
บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR เดินเกมรุกเร่งขยายอาณาจักรใหม่ ย่านพุทธมณฑล บางแค-สาทร, ประชาอุทิศ, บางกรวย-ไทรน้อย เล็งเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,632 ล้านบาท ขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพิ่มตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยครอบคลุมทุกมิติ ดันเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 35–50%
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีแผนรับรู้รายได้ 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,632 ล้านบาท โซนพุทธมณฑล บางแค-สาทร ,ประชาอุทิศ, บางกรวย-ไทรน้อย เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสร้างการเติบโตสู่ระดับ High Growth พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 35-50% จากโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงโครงการเดิมที่ยังคงทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
สำหรับโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ European Luxuries รวม 29 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดยราคาเริ่มต้นที่ระดับ 13.90 ล้านบาท โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (พุทธมณฑล สาย 3) รูปแบบบ้านเดี่ยวสไตล์ Art Deco รวม 31 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการ 422 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 12.90 ล้านบาท
โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส บางปู 104 (บางปู 104) ซึ่ง SVR ถือหุ้น 60% และกลุ่มพุทธพรมงคล ถือหุ้น 40% ภายใต้บริษัท สิวารมณ์ พลัส แลนด์ จำกัด เป็นโครงการรูปแบบบ้าน 3 ประเภท มูลค่าโครงการ 1,453 ล้านบาท โครงการ แกรนด์สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท-บางปู) ในลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Art Deco พื้นที่รวม 254 ยูนิต โดยมีมูลค่าโครงการ 1,438 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.5 – 7.0 ล้านบาท
โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (ประชาอุทิศ 76) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนพื้นที่ประมาณ 22-3-78 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาทโดยเริ่มทยอยรับรู้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมียอดจองแล้ว 18 ยูนิต มูลค่าประมาณ 100ล้านบาท
โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (บางกรวย-ไทรน้อย) เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 242 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท ระดับราคา 2-3.5 ล้านบาทต่อยูนิต เริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป โดยปัจจุบันมียอดจองแล้ว 20ยูนิต มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท-บางปู) โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา) โครงการ สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท-บางปู 83) โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา-ระยอง) และ โครงการ สิวารมณ์วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู 58) ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้รวม 11 โครงการ โดยจะทยอยรับรู้ถึงปี 2568-2569
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 924.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.34 หรือ 198.51 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 76.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.83% จากปีก่อน ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 275.43 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.80 ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปี 2566 ร้อยละ 8.33 เพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 0.48 เทียบกับปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 7.85 จากรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงตามไปด้วย
ในปี 2566 บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากการขายโครงการต่าง ๆ ของบริษัท จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท-บางปู) จำนวน 277.97 ล้านบาท โครงการ สิวารมณ์วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู 58) จำนวน 278.77 ล้านบาท โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา) จำนวน 125.86 ล้านบาท โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู) จำนวน 110.80 ล้านบาท และโครงการใหม่ที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2566 จำนวน 1 โครงการ จากโครงการสิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) จำนวน 5.67 ล้านบาท