KS Daily View 05.03.2024 >>> ทองคำ, BTC พุ่งใกล้ระดับสูงสุด ก่อนประชุมเฟดเดือนนี้ SET แนวรับสำคัญ 1,355จุด หุ้นแนะนำวันนี้ SAPPE, KKP
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,355-1,380 จุด แรงขายของนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยกดดันจากงบ 4Q23 ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้ BB Consensus มีการปรับลด EPS ลงแล้ว 3% YTD เหลือ 94 จุด ขณะที่ตลาดรอสัญญาณจากการประชุม Fed ในวันที่ 19-20 มี.ค. และการประชุม BOJ ในวันที่ 19 มี.ค. ในส่วนของราคาทองคำ และ BTC พุ่งใกล้ระดับสูงสุดที่ 2,126 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ และ 67,000 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นได้แก่ 1.)แรงหนุนจากนักลงทุนคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.; 2.)สถานการณ์ Bitcoin halving; และ 3.) การที่นักลงทุนลดความเสี่ยงของ Port การลงทุนโดยถือทองคำ และ BTC เพิ่มขึ้น
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) กำไรสุทธิโดยรวมในไตรมาส 4/66 ลดลงเป็น 1.78 แสนลบ. (+4% YoYและ -38% QoQ) น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ 23% กำไรทั้งปี FY66 เติบโตลดลง 6% YoY
2.) สำนักข่าวรอยเตอร์เผย Tesla แบรนด์ผู้ผลิตรถ EV ยักษ์ใหญ่อยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลไทยถึงโอกาสในการตั้งโรงงานในประเทศ พร้อมระบุว่ามีการสำรวจสถานที่ตั้งโรงงานแล้ว โดยรูปแบบของข้อเสนอที่รัฐบาลไทยมีให้กับTesla นั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เป็น Green Energy 100% ที่ทำให้ Tesla สามารถผลิตได้ทั้งรถ EV และแบตเตอรี่ (อ้างอิงจาก brandbuffet.in.th)
3.) ศาลฎีกาสหรัฐชี้ขาด “ทรัมป์” มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งชิงประธานาธิบดี โดยศาลสูงสุดของสหรัฐกล่าวว่า การแบนผู้สมัครคนใดจากการเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเป็นผู้ปลุกระดม “เป็นอำนาจของรัฐสภาในกรุงวอชิงตันเท่านั้น” ไม่ใช่อำนาจของรัฐหนึ่งรัฐใด (เดลินิวส์)
4.) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ทำโครงการตัดวงจรลูกหมู เร่งลดจำนวนลูกหมูที่จะเข้าสู่ระบบการผลิต เพื่อแก้ปัญหาผลผลิตหมูเกินความต้องการ จนส่งผลกระทบต่อราคาที่เกษตรกรขายได้ เบื้องต้นจะตัดวงจรลูกหมูเฉลี่ยวันละ 8,000 ตัว เนื่องจากปัจจุบันสามารถผลิตลูกหมูได้เฉลี่ยวันละ 58,000 ตัว ขณะที่ความต้องการบริโภคอยู่ที่วันละ 50,000 ตัว มีส่วนเกินวันละ 8,000 ตัว ทั้งนี้ราคาสุกรลดลง 4.6% เป็น 62 บาท/กก. เนื่องจากมีการลักลอบนำชิ้นส่วนเนื้อหมูผิดกฎหมายเข้าสู่ตลาด มองเป็นลบกับกลุ่มผู้เลี้ยงในระยะสั้น (BTG, CPF, TFG)
Daily pick
SAPPE : ราคาพื้นฐาน 101.90 บาท
ในปี 2567 SAPPE ตั้งเป้า 1) เพิ่มยอดขาย 20-25% 2) คง GPM ไว้ที่ 44.8% 3) ฟื้นธุรกิจน้ำมะพร้าว และ 4) เพิ่ม SG&A ต่อรายได้ให้ขยายตัว 100 bps ผู้บริหารคาดว่ายอดขายไตรมาส 1/67 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ มุมมองเชิงบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ เป้า GPM สูงกว่าสมมติฐานของเราที่ 43.9% ซึ่งคิดเป็น upside risk ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นถูกรวมอยู่ในประมาณการแล้วปัจจัยเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้น ได้แก่1) แนวโน้มไตรมาส 1/2567 ที่แข็งแกร่งขึ้นจากยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง QoQ 2) ราคาเม็ดพลาสติก PET ที่ลดลง (45% ของ CoGS) 3) upside risk ต่อประมาณการของเรา โดยพิจารณาจากเป้า GPM ของ SAPPE และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง ซื้อขายด้วย PER ปี 2566-68 ที่ 21.4 เท่า/18.1 เท่า/16.6 เท่า
KKP : ราคาพื้นฐาน 54.75 บาท
ดัชนีราคารถยนต์มือสองที่รายงานโดย TTB เริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือน ม.ค. โดยราคารถยนต์นั่งมือสองปรับเพิ่มขึ้น 12% MoM ขณะที่ราคารถกระบะมือสองปรับเพิ่มขึ้น 8% MoM มองเป็นบวกกับกลุ่มแบงค์เล็กที่เน้นปล่อยสินเชื่อรถยนต์จากโอกาสที่จะบันทึกผลขาดทุนรถยึดลดลง นอกจากนี้ประเมินว่าหาก ธปท. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 50bps. จะเป็นบวกกับธุรกิจ Auto loan ของทาง KKP ด้วย
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันอังคาร : ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของไทยสำหรับเดือน ก.พ. โดยตลาดคาดที่ -0.9% YoY และ 0.5% YoY ตามลำดับ ต่อด้วยการประชุม the National People’s Congress ของจีน ซึ่งคาดจะมีการเปิดเผยเป้า GDP ปี 2024 ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของญี่ปุ่น สำหรับเดือน ก.พ. โดยตลาดคาดที่ 1.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.6% YoY
- วันพุธ : ติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ภาคเอกชน สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 90k เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 107k ต่อด้วยจำนวนงานเปิดรับใหม่ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 8.9 ล้านตำแหน่ง เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.026 ล้านตำแหน่ง และรายงานของประธาน Fed ต่อสภาคองเกรส
- วันพฤหัสฯ : ติดตามตัวเลขส่งออกและนำเข้าของจีนสำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดขยายตัวที่ 4.0% และ 1.0% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.3% และ 0.2% ตามลำดับ ต่อด้วยการประชุมธนาคารกลางของยุโรป โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.50% และติดตามถ้อยแถลงรายงานของประธาน Fed ต่อสภาคองเกรส วันที่สอง
- วันศุกร์ : ติดตามตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยรายชั่วโมงของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 4.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.5% YoY และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 188k เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 353k และตัวเลขอัตราการว่างงาน ตลาดคาดที่ 3.7% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า