วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,365 / 1,360 แนวต้าน 1,380 / 1,385

ตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศหลัง คุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสภาคองเกรสส่งสัญญาณจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง พร้อมทั้ง 10 Years US-Bond Yield อ่อนตัวลงต่อ หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ ในส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เราคาดตลาดจะรอดูร่างงบประมาณปี 67 ช่วงวันที่ 20-21 มี.ค. อย่างไรก็ตามคืนนี้แนะนำติดตามตัวเลข Nonfarm Payrolls

Our View? “เขาไปกันหมดแล้ว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,365 / 1,360 และแนวต้านที่บริเวณ 1,380 / 1,385 เรามองตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศหลังคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสภาคองเกรสส่งสัญญาณจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง พร้อมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสเรียกร้องให้ FED ปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงเพื่อลดผลกระทบต่อภาคครัวเรือน ขณะที่การรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เมื่อคืนนี้ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.17 แสนตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ บ่งชี้ตลาดแรงงานเริ่มลดความร้อนแรง คาดจะกระตุ้นความหวังในการที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.08%+/- ทำจุดต่ำสุดใหม่ ในภาพระยะสั้นคาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในโหมด Risk-On ได้ต่อ อย่างไรก็ตามคืนนี้เราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ก.พ. ของสหรัฐคาดจะออกมาที่ระดับ 2.00 แสนตำแหน่งหากออกมามากกว่าที่ตลาดคาดอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น

ขณะที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 4.00% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.75% และอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.50% เท่าเดิมเป็นไปตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามเราคาด ECB มีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 2-30’67 นี้เช่นเดียวกับ FED ซึ่งคาดจะส่งผลให้เกิดกระแสเงินทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้นได้ในระยะถัดไป

สำหรับปัจจัยภายในประเทศแม้เรามอง Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดลง โดยการปรับตัวลงตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบัน SET Index ซื้อขายกันที่ Forward PE 14.2 เท่า +/- ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1 S.D. ทำให้ความน่าสนใจในเชิง Valuation เพิ่มขึ้นบ้าง ขณะที่การออกมาตรการต่างๆ เพิ่มควบคุม Naked Short / Program Trade คาดจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยลงได้ อย่างไรก็ตาม เรามองตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้น โดยเราคาดว่าตลาดจะรอดูการพิจารณาร่างงบประมาณปี 67 ในช่วงวันที่ 20-21 มี.ค. โดยเรายังมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การออกโครงการใหม่ของภาครัฐตามมาได้ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC) และหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO) ปรับตัวขึ้นต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPALL”

  • เรายังชอบ CPALL จากโมเมนต้มกำไร 1Q/67 แม้คาดจะย่อตัว QoQ จากฤดูกาล แต่โตต่อเนื่อง YoY ตาม SSSG Qtd ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ลุ้นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วง 2Q’3Q 67 คาดจะหนุนทิศทางกำไรปรับตัวขึ้นได้ต่อ
  • ทางเทคนิค ราคาดีดตัวขึ้นได้ยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นสูงขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO เริ่มกลับมามีกำลังขึ้นอีกครั้ง
  • แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม” แนวรับ 58.00 / 57.00 Target 60.00 / 64.00 Stop <55.75

- Advertisement -