บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
บมจ. ช. การช่าง (CK) “3Q21 ก่อสร้างไม่ดี แต่ลูกยังดี”
คาด 3Q21 มีกำไรสุทธิ 108 ลบ. (-86%YoY, -66%QoQ)
เราคาดว่าผลประกอบการในงวด 3Q21 จะมีกำไรสุทธิ 108 ลบ. (-86%YoY, 66%QoQ) โดยไตรมาสนี้ยังมีกำไรได้จากผลดีของบริษัทร่วม โดยเฉพาะ CKP เป็นช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจก่อสร้างเองเป็นไตรมาสที่ไม่ดีนัก เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันโควิด โดยเฉพาะการปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นเวลา 1 เดือน โดยเราคาดรายได้ลดลง 28%YoY, 15%QoQ เหลือ 2,718 ลบ. นอกเหนือจากแรงกดดันเรื่องการปิดแคมป์ก่อสร้าง แล้วยังได้รับแรงกดดันจาก Backlog ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากงานขนาดใหญ่ที่เสนอราคาต่ำสุดอย่างรถไฟทางคู่และงานเขื่อนที่ลาวยังไม่เซ็นสัญญาเข้ามา (มูลค่ารวมกว่า 100,000 ลบ.) กำไรขั้นต้นทรงตัวที่ระดับ 8% แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่าจะอยู่ที่ 507 ลบ. (+12% YoY, +2%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการป้องกันโควิด ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดไว้ที่ 300 ลบ. (-45%YoY, -2%QoQ) การลดลงจากปีก่อนมาจากส่วนแบ่งของ BEM หลังได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการควบคุมโควิด ส่วนเมื่อเทียบกับ 2Q21 เป็นผลจากส่วนแบ่งของ CKP เพิ่มขึ้น
ยังรอเซ็นงานใหญ่ ส่วนงานรถไฟฟ้าเห็นผลดีจริง 2H22
สำหรับการเซ็นสัญญาโครงการขนาดใหญ่ 2 แห่งนับถึงปัจจุบัน ยังต้องรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการอยู่ ส่วนการประมูลรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง อย่างสายสีม่วง (มูลค่ารวมกว่า 78,000 ลบ.) ที่ขายเอกสารประกวดราคาแล้ว และสายสีส้ม (มูลค่ากว่า 100,000 ลบ.) ที่คาดว่าจะเปิดขายเอกสารประกวดราคาภายในปีนี้ และยื่นประมูลช่วงปลายปี 21 โดยเรามองว่าจะทราบผลผู้ชนะและเซ็นสัญญาได้ในช่วง 1H22 ก่อนจะเริ่มรับรู้รายได้ในงวด 3Q22 เป็นต้นไป ส่วนงานอื่นๆ คาดว่าจะมีการยื่นประมูลงานอุโมงระบายน้ำ 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,300 ลบ.
ปรับกำไรปี 21-22 ลงอีกรอบ หลังงานใหม่มาช้า
เราปรับกำไรสุทธิปี 21-22 ลง 6% และ 13% มาอยู่ที่ 572 ลบ. (-6%YoY) และ 997 ลบ. (+74%YoY) ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการเซ็นสัญญางานขนาดใหญ่ที่รออยู่ยังไม่มีเข้ามาในช่วง 3Q21 รวมถึงงานรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง คาดว่าจะรับรู้ผลดีในช่วง 2H22 เป็นต้นไป และมีการปรับรายได้ปี 22 ลงจากเดิม 16% มาอยู่ที่ 15,771 ลบ. (+25%YoY)
สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรามองว่า CK เป็นตัวเก็งงานภาครัฐที่จะออกรวมถึงได้รับผลดีจากผลประกอบการของ บริษัทลูกอย่าง BEM ที่จะเริ่มขึ้นในช่วง 4Q21 หลังคลายล็อคดาวน์ เราจึงคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 24 บาท (1.5X PBV’22E เราปรับวิธีเนื่องจากผลประกอบการยังไม่มาหลังงานขนาดใหญ่เข้ามาช้ากว่าที่คาดไว้)